กรูมมิ่งแมว สายพันธุ์ขนยาว จะขนหนากี่ชั้นก็นุ่มสลวยได้

กรูมมิ่งแมว สายพันธุ์ขนยาว ถือว่าเป็นอีกทริคที่เหล่าทาสแมวสายพันธุ์ขนยาวควรทราบ เพราะต้องบอกก่อนว่าเจ้าเหมียวขนยาวอย่าง แมวเมนคูน แมวเปอร์เซีย และบริติชลองแฮร์ จะต้องการการดูแลขนเป็นพิเศษ เพราะสิ่งสกปรกสามารถมาเกาะติดขนของเจ้าเหมียวขนยาวได้ง่าย สำหรับทาสที่เลี้ยงแมวขนยาว ต้องขยันแปรงขนในทุกๆ วัน อย่างน้อยวันละ 15 นาที เพื่อไม่ให้ขนเป็นกระจุกและพันกัน โดยจะเน้นที่ส่วนก้นของเจ้าเหมียวที่ขนจะพันกันได้ง่ายกว่าบริเวณส่วนอื่นๆ และบริเวณที่เจ้าเหมียวไม่สามารถเลียทำความสะอาดถึง ทั้งนี้ ต้องแปรงขนอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหนังของเจ้าเหมียวด้วย

กรูมมิ่งแมว สายพันธุ์ขนยาว จะหนากี่ชั้น ทาสก็เอาอยู่!

“ต้องทำยังไง? ให้แมวของเราขนสวยสุขภาพดีไปตลอด” และนี่ต้องเป็นคำถามที่เจ้าของแมวขนยาวทุกคนสงสัยและอยากจะพยายามให้เจ้าเหมียวแสนรักของคุณขนสวยน่ารักไปตลอด แต่ก็ต้องยอมรับว่าแมวขนยาวนั้นต้องได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันเพราะไม่เช่นกันอาจจะเกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการดูแลแมวขนยาวมาให้ฟังกัน

แมวขนยาวมีสายพันธุ์อะไรบ้าง

โดยปกติแล้วลักษณะขนแมว ลักษณะทางกายภาพหรือพฤติกรรมนั้นจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคต้นกำเนิดของสายพันธุ์นั้นเป็นตัวกำหนด โดยสายพันธุ์แมวขนยาวที่นิยมเลี้ยงกันในประเทศ เช่น เปอร์เซีย (Persian) แร็กดอลล์ (Ragdoll) ไซบีเรียน (Siberian) เมนคูน (Maine Coon) ซึ่งเจ้าแมวตัวอ้วนขนฟูเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลขนเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขนพันกันเป็นก้อน ปัญหาขนร่วง และเสี่ยงต่อเป็นโรคผิวหนังในอนาคต

วิธีดูแลแมวขนยาวไม่ให้พันกัน เทคนิคดูแลขนแมวให้ยาวสวย

วิธีสังเกตว่าแมวสุขภาพดีหรือไม่ดี สามารถสังเกตได้ที่ขนของแมวว่ามีความนุ่มนิ่ม ลูบแล้วสากมือ และมีร่วงติดมือหรือไม่? หากแมวของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นขนและผิวหนังแล้ว วันนี้เราจึงเทคนิคดีๆ มาฝากสำหรับ สำหรับคนที่มีอยากให้แมวขนยาวสวยสุขภาพดี ดังนี้ ..

1.เลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์

อาหารถือเป็นสิ่งแรกๆ ที่เจ้าของแมวต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง เพราะอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและเส้นขนจะช่วยกระตุ้นให้ขนแมวมีความนุ่มสลวย ไม่สากมือ และยังลดปัญหาขนหลุดร่วงง่ายอีกด้วย เหมือนเป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอก นอกจากอาหารหลักแล้วสามารถหาขนมแมวหรืออาหารเสริมแมวที่มีส่วนผสมของกรดโอเมก้า 6 กรดโอเมก้า 3 และคอลลาเจนเพิ่มจะยิ่งทำให้ขนแมวสลวย ไม่พันกัน  และนุ่มฟูขึ้นอย่างแน่นอน

2. แปรงขนอย่างสม่ำเสมอ

แมวขนยาวมักจะประสบปัญหาขนพันกันค่อนข้าง ดังนั้นการแปรงขนเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสขนพันได้ดี ขนนุ่มสลวยและยังช่วยลดขนหลุดร่วงที่ไม่พึงประสงค์ด้วย เวลาแปรงขนไม่ได้แปรงไปเฉยๆ แต่ต้องมีลำดับขั้นตอนของมันด้วย โดยเริ่มแปรงจากขนใต้ท้อง ลำตัว ต้นคอ หลังหู หน้าอก หางและก้นตามลำดับ เวลาแปรงให้แปรงเบาๆ ไม่กดจนเกินไปเพราะถี่หวีอาจกดผิวหนังแมวบาดเจ็บ ควรแปรงขนครั้งละ 15- 20 นาที อาทิตย์ละ 2 ครั้ง โดยเลือกใช้แปรงที่เหมาะสมกับปัญหาขนด้วย เช่น แปรงขนหมุดซี่ห่างๆ  เหมาะสำหรับใช้หวีขนแมวแบบประจำวัน เป็นการสางขนที่หลุดร่วงออก แต่ถ้าเป็นหวีขนลวดแบบเป็นซี่ถี่จะใช้หวีแก้ขนที่พันกัน

3.อาบน้ำอย่างสม่ำเสมอ 

การอาบน้ำจะช่วยให้ขนแมวสะอาด มีกลิ่นหอม และลดการเกิดภูมิแพ้ในบ้านได้ดี เพราะเป็นการอาบน้ำเอาสารก่อภูมิแพ้ที่มาจากน้ำลาย ต่อมไขมัน ขนแมว และผิวหนังของแมวออกไป แนะนำให้เลือกแชมพูอาบน้ำแมวที่มีค่า ph ที่อ่อนโยนที่ระบุว่าใช้สำหรับแมวโดยเฉพาะ อาบเป็นประจำอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้งต่อเดือน

4.เช็ดตัวแมวให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ

แมวทุกสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นแมวขนสั้นหรือขนยาวต่างก็ต้องได้รับการดูแลหลังอาบน้ำเสร็จโดยการเบาขนให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรปล่อยให้แมวเลียขนให้แห้งไปเองโดยเฉพาะแมวขนยาวเพราะว่าแมวขนยาวหลายๆ สายพันธุ์มักจะมีขน 2 ชั้นที่ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูแห้งแต่ขนชั้นในจะชื้นอยู่ ซึ่งความชื้นนั้นหากเกิดขึ้นบ่อยๆ อาจทำให้เกิดกลิ่นอับและเกิดปัญหาโรคผิวหนัง และสามารถเกิดเชื้อราได้ ดังนั้นควรเช็ดตัว ซับขนและไดร์ขนแมวให้แห้งด้วยไดร์เป่าผมหรือเครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงได้

 "เครื่องเป่าขน" อีกหนึ่งไอเทมจำเป็นสำหรับทาส ช่วยดูแลคนให้สลวย หมดปัญหาการเกิดเชื้อราเพราะขนยาว!

น้องแมว กับน้ำ เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนาน เพราะกว่าจะจับอาบน้ำได้แต่ละที ต้องงัดทุกกลเม็ดเทคนิคให้น้องแมวยอมโดนน้ำ หลังจากนั้นยังต้องมาจับเป่าขนอีก พูดเท่านี้เชื่อว่าทาสแมวหลายคนคงเข้าใจสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำเป่าขนที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น อาจส่งผลให้แมวเป็นเชื้อรา และโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะน้องแมวพันธ์ขนยาวทั้งหลายที่ต้องดูแลการเป่าขนเป็นพิเศษ

ดังนั้น การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากภาวะเชื้อราของน้องแมวสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำหรือเป่าขนไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดโรคเชื้อราในแมวได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรมีเครื่องเป่าขนสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากพอทั้งในส่วนของการเป่าขนให้แห้งและกำจัดแบคทีเรียให้หมดไปเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราให้ดีมากขึ้น

เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงจาก Petology

เครื่องเป่าขนแมวเป็นหนึ่งในไอเทมจำเป็นสำหรับทาสแมวทั้งหลาย เพราะนอกจากจะช่วยให้น้องแมวรู้สึกสบายตัวทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จแล้ว ยังช่วยให้ขนแห้ง ไม่มีจุดอับชื้นซึ่งอาจก่อให้เกิดเชื้อราในแมวตามมาได้อีกด้วย

Pepe DR-100 Pro รุ่นใหม่ ลมแรงกว่าเดิม 30% แต่เสียงเบากว่า เพิ่มโหมดการใช้งานพร้อมระบบฆ่าเชื้อตัวเองด้วยแสง UV-C

✅ระบบการทำงานของตู้อบจะใช้ระบบหมุนเวียนความร้อน ต่างจากการทำให้แห้งด้วยไดร์รีดน้ำทั่วไป ไม่ต้องกลัวน้องตาแห้งหรือเครียดเพราะเสียงไดร์อีกต่อไป
✅ช่วยประหยัดเวลาเจ้าของเหมาะกับน้องแมวน้องหมาที่กลัวเสียงไดร์ เพราะเสียงเบาประมาณ 45-50 เดซิเบล ค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับไดร์เป่าผมคนที่มีความดังมากถึงหรือมากกว่า 90 เดซิเบล
✅อุณหภูมิปรับได้ 25-40 องศา ตู้โปร่งระบายอากาศรอบทิศทาง แกะล้างทำความสะอาดง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมือ
✅ระยะเวลาที่ใช้ในการทำให้ขนแห้งจะขึ้นอยู่กับขนาดและเนื้อขน
✅ สำหรับน้องแมวใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 2 ชั่วโมง

เหมาะสำหรับสุนัขขนาดกลาง รองรับน้ำหนักสุนัขได้ถึง 25 กิโลกรัม

✅ ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งานช่วยลดภาระในการที่จะต้องมานั่งเป่า นั่งเช็ด นั่งไดร์ สัตว์เลี้ยงหลังจากอาบน้ำ ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อราจากร้านอาบน้ำ

✅ วัสดุที่ใช้มีคุณภาพ รับประกัน 5 ปี พลาสติกที่ใช้เป็น HDPE มีความทนทานสูง ทนความร้อน ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี ปลอดสาร BPA

✅ แรงลม 7 ทิศทาง รวมไปถึงด้านล่าง ลมไม่ต้องแรงเสียงไม่ต้องดังแต่เป่าแห้งเพราะออกแบบมาดี ใช้ระบบ reheating circulation หมุนเวียนของความร้อนด้วยการกดอุณภูมิให้อยู่แต่ในตู้แต่ตัวตู้โปร่งระบายอากาศรอบทิศทางไม่มีขาดอากาศหายใจ

✅ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจจะนำพาไปสู่เชื้อราและสิ่งปฎิกูลในอากาศด้วยการยิงประจุไฟฟ้าขั้วลบไปในอากาศในปริมาณที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยงหรือที่รู้จักกันในนามของระบบ ionizer พบได้ในเครื่องฟอกอากาศราคาสูง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตหลายรายพัฒนาให้สามารถสั่งงานตัวเครื่องผ่านทางแอปพลิเคชันของแบรนด์นั้น ๆ แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ทาสแมวได้รู้สถานะการทำงานของเครื่องได้ตลอดเวลา หากเกิดปัญหาอะไรก็สามารถรับรู้และเอาน้องออกมาจากเครื่องได้ทันที แต่หากเครื่องรุ่นไหนยังไม่มีระบบแบบนี้ก็อาจต้องพิจารณาส่วนอื่น ๆ ร่วมด้วย

ท้ายที่สุด สิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรลืมคือต้องเลือก เป่าขนด้วยเครื่องเป่าลมที่มีกำลังสูง แต่มีเสียงที่เบา จึงทำให้น้องแมวไม่ตกใจง่าย พร้อมกันนี้ยังสามารถเป่าขนได้แห้งทั้งขนชั้นนอก และขนชั้นในสำหรับน้องแมวที่มีขนหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บทความล่าสุด

location
บริษัท เพ็ทโทโลจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 47/356 อาคารไคตัค ชั้น 10 ถ. ป๊อปปูล่า ต. บ้านใหม่ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120

© 2024 Petology. All Rights Reserved.