แมวอ้วน ดู ยัง ไง ? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่เหล่าทาสต่างสงสัยไปตาม ๆ เพราะเจ้าเหมียวนั้นมักจะมีรูปร่างที่กลมและปุ๊กลุ๊กกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้น การจะดูว่าแมวตัวไหนผอมหรือแมวตัวไหนอ้วน เราจะมีวิธีดูได้อย่างไร ซึ่งนอกจากนี้ อีกสิ่งที่ทาสต้องระมัดระวังหลังจากที่รู้วิธีดูว่าน้องแมวตัวไหนอ้วนแล้วก็คือ โรคต่าง ๆ ที่มากับความอ้วนของน้องแมวด้วย ซึ่งจะมีโรคไหนที่ควรระวังบ้าง วันนี้ Petology นำข้อมูลมาฝากแล้ว มาดูไปพร้อม ๆ กัน
แมวอ้วน ดู ยัง ไง หากน้ำหนักมากเกินไป ควรทำยังไงให้เจ้านายห่างไกลโรค?
แม้การเลี้ยงแมวให้อ้วนตุ้ยนุ้ย ซึ่งทาสแมวหลายคนก็เลือกที่จะทำตาม เพราะแมวอ้วนดูน่ารักน่ากอดมากจริง ๆ แต่ความน่ารักนี้ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเค้า และยังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่ร้ายแรงอีกมากมายด้วย
แมวอ้วนเกิดจากสาเหตุอะไร?
แมวอ้วน หรือ โรคแมวอ้วน เป็นภาวะที่น้องแมวมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้เกิดเป็นไขมันสะสมตามร่างกายในปริมาณมากกว่ากล้ามเนื้อ ซึ่งภาวะนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ๆ ทั้งที่เกิดจากตัวเจ้าของเอง เกิดจากตัวน้องแมว และภาวะบางอย่าง ดังนี้…
อายุ, เพศ และลักษณะนิสัยส่วนตัว
โดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยที่ทำให้แมวอ้วน หรือภาวะมีน้ำหนักเกิน มาจากเรื่องของอายุ ซึ่งน้องแมวที่มีอายุมากขึ้น เนื่องจากอัตราการเผาผลาญพลังงานลดลง ความกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ลดลงเช่นกัน
ทำหมัน
หลังการทำหมันแล้ว น้องแมวอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคแมวอ้วนได้ง่ายมาก นั่นก็เพราะการทำหมันส่งผลให้ฮอร์โมนเพศลดลง รวมถึงมีการเผาผลาญพลังงานที่น้อยลง และหลังทำหมัน น้อง ๆ อาจมีอาการซึม เฉื่อยชา ส่งผลให้ไม่ค่อยลุกเดินหรือวิ่งเล่นเหมือนแต่ก่อนอีกด้วย
อาหารการกิน
ปัจจัยต่อมาที่ทำให้น้องแมวเสี่ยงเป็นโรคแมวอ้วน คือ เรื่องอาหาร ซึ่งแน่นอนว่า การให้อาหารน้อง ๆ ในปริมาณมากเกินไปในแต่ละมื้อและแต่ละวัน ย่อมทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานไม่หมด จนเหลือเก็บสะสมในรูปแบบของไขมันส่วนเกิน และในบางครั้งการให้ขนมหลังมื้ออาหารหรือในระหว่างวันมากเกินไป ก็ส่งผลให้แมวอ้วนได้เช่นกัน
ซึ่งนี่เป็นเพียงสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดภาวะอ้วนเท่านั้น ซึ่งเจ้าของต้องระมัดระวังในส่วนของการให้อาหารและโภชนาการของเหล่าน้องแมวประกอบด้วย
ภาวะโรคอันตรายในน้องแมวที่มาจาก “ความอ้วน”
ทาสทราบหรือไม่ว่า ภาวะอ้วนในน้องแมวนั้นสามารถนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น…
- เบาหวาน
- ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ตับวาย
- โรคหัวใจ
- โรคระบบทางเดินหายใจ
- ภาวะคลอดยาก
โดยถ้าหากไม่เริ่มทำการปรับพฤติกรรมในการให้อาหาร หรือกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายจนมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานต่อไปเรื่อย ๆ โรคร้ายต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้อาจเป็นผลกระทบต่อสุขภาพของน้องแมวที่ตามมาได้
มาเช็คกัน!! เจ้านายของเราเข้าข่าย “แมวอ้วน” หรือไม่?
สำหรับวิธีตรวจเช็กดูว่าน้องแมวที่บ้านเข้าข่ายเป็นโรคแมวอ้วนหรือยัง ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยอาจสังเกตได้จากที่น้องเดินอุ้ยอ้าย เชื่องช้า เคลื่อนไหวน้อยลง และสังเกตได้จากรูปร่างของน้อง ๆ รวมถึงใช้วิธีจับคลำที่ลำตัวตามสัดส่วนต่าง ๆ
- หัวไหล่และกระดูกซี่โครง หากจับไม่เจอซี่โครงหรือกระดูกหัวไหล่ แต่เจอเนื้อนิ่ม ๆ แสดงว่า น้องอาจเข้าข่ายภาวะแมวอ้วน
- หลัง หากสังเกตแล้วไม่เห็นหรือจับแล้วไม่เจอกระดูกสันหลัง จับแล้วเจอเนื้อหนา ๆ แสดงว่าน้องแมวอาจมีภาวะแมวอ้วน
- หน้าท้อง หากมีภาวะโรคแมวอ้วน น้องจะมีหน้าท้องที่กลมยื่น หรือห้อยลงมาด้านล่าง ซึ่งสังเกตได้ชัดเวลามองด้านข้าง
- เอว เมื่อมองจากด้านบนของลำตัว จะเห็นช่วงเอวที่กลมและขยายออกด้านข้าง
ทั้งนี้ นอกจากการสังเกตรูปร่างของน้องแมวที่สามารถเช็กได้คร่าว ๆ แล้ว เหล่าทาสควรหมั่นสังเกตเรื่องน้ำหนักแมวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยมาตรฐานน้ำหนักแมว (วัยโตเต็มที่) จะอยู่ที่ 4-5 กิโลกรัม สำหรับน้องแมวสายพันธุ์ไทยอาจตัวเล็กกว่า ซึ่งมีน้ำหนักแมวประมาณ 3 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นเกณฑ์น้ำหนักปกติและไม่ควรให้เกินกว่านี้ เพราะอาจทำให้ประสบปัญหาแมวอ้วนขึ้นได้นั่นเอง
3 แนวทางลดน้ำหนักน้องแมว ขจัดต้นตอของโรคร้าย ช่วยเจ้านายใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น
โดยหลัก ๆ แล้ว เหล่าทาสสามารถเริ่มต้นวิธีการลดน้ำหนักให้น้องแมวได้ง่าย ๆ ด้วย 3 วธีนี้ คือ…
1.ปรับโภชนาการและให้อาหารเป็นเวลา
การให้อาหารแบบอิสระคือการเทอาหารเม็ดทิ้งไว้ในปริมาณมาก เพื่อให้น้องแมวกินอาหารได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แต่เพราะนิสัยกินได้ไม่หยุด อาจทำให้พวกเค้ากินอาหารมากเกินไปจนกลายเป็นแมวอ้วนได้ง่าย เพื่อควบคุมน้ำหนักและรักษารูปร่างให้เหมาะสม ควรกำหนดตารางการให้อาหารในแต่ละวันหรือเปลี่ยนมาใช้เครื่องให้อาหารอัตโนมัติที่กำหนดเวลาได้แทน
2.ออกกำลังกายเป็นประจำ
หากเจ้าตัวน้อยของคุณเป็นโรคอ้วน การออกกำลังกายเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุด จะให้พวกเค้าวิ่ง ปีนป่าย หรือกระโดดก็ได้ทั้งนั้น การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินและทำให้แมวกลับมามีรูปร่างที่ดีได้ สำหรับแมวบ้านที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย การติดวงล้อออกกำลังกายก็เป็นทางเลือกที่ดี หรือจะชวนพวกเค้าเล่นเกมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ ด้วยก็ได้
3.รักษาน้ำหนักแมวให้คงที่
เมื่อลดน้ำหนักแมวให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแล้ว สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ การรักษาน้ำหนักแมวให้คงที่ โดยหมั่นเช็กน้ำหนักตัวเป็นประจำทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อเป็นการจัดการควบคุมดูแลอย่างถูกต้อง ป้องกันไม่ให้น้องกลับมาอ้วนได้อีก
ซึ่งนี่เป็นเพียง 3 วิธีเบื้องต้นเท่านั้น นอกจากนี้น้องแมวบางตัวอาจจะต้องใช้ยาเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักด้วย ซึ่งบรรดาอาจพาเจ้านายเข้าพบคุณหมอและเข้ารับคำแนะนำต่อไปเพื่อหาวิธีที่เหมาะกับเจ้านายแต่ละตัวมากที่สุด
4 ผลิตภัณฑ์จาก Petology ช่วยลดปัญหาน้องแมวอ้วนเกินไป เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง!!
สำหรับผลิตภัณฑ์จาก Petology ที่สามารถช่วยให้เหล่าทาสสามารถลดน้ำหนักของเจ้าได้ได้สำเร็จง่ายขึ้น ประกอบด้วย…
1.CATLINK ONE เครื่องให้อาหารสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ ควบคุมอาหารเฉพาะตัว
Catlink One เครื่องให้อาหารอัตโนมัติที่สามารถบันทึกสถิติการกินอาหารสำหรับน้องแมวทุกขนาดและน้องหมาขนาดเล็ก ตอบโจทย์เจ้าของที่กำลังคุมอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ซึ่งมีฟังก์ชั่นที่คอยบันทึกการกินอาหารของน้องแมวในแต่ละวันและเจ้าของสามารถควบคุมมื้ออาหารผ่านแพลิเคชั่นได้อย่างสะดวก
สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ >> Catlink One เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ
2.EBO AIR หุ่นยนต์บังคับเคลื่อนที่ผ่านมือถือ
หุ่นยนต์บังคับเคลื่อนที่ผ่านมือถือ ช่วยดูแลคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน Ebo องครักษ์พิทักษ์แมว เป็นเพื่อนคลายเหงา ทาสแมวที่ชอบส่องแมวเวลาไม่อยู่บ้านบอกเลยพลาดไม่ได้เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา
สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ >> EBO AIR หุ่นยนต์บังคับเคลื่อนที่ผ่านมือถือ
3.ลู่วิ่งแมวอัจฉริยะ CAT WHEEL
ลู่วิ่งตัวนี้ผลิตที่เกาหลีนำเข้าจากเกาหลีผ่านการคำนวณมาแล้วทุกอย่างเพื่อความปลอดภัย สามารถเก็บสถิติและระยะทางรวมไปถึงค่า BMI แมวผ่านแอพบนมือถือ (Bluetooth) มีแรงต้านจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย เบรคง่ายไม่ต้องกลัวว่าวิ่ง ๆ แล้วแมวจะลอยไปกับล้อปลิวไปตามแรงหมุนรวมถึงสามารถเปลี่ยนสีไฟ LED เพื่อป้องกันสายตาน้องแมวอีกด้วย
สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ >> ลู่วิ่งแมวอัจฉริยะ CAT WHEEL
4.คอนโดแมว
“คอนโดแมว” อุปกรณ์ที่บรรดาคนเลี้ยงแมวต้องมีติดบ้าน ส่วนใหญ่มักมีลักษณะเป็นกล่องเล็กๆ พร้อมเสา บ้างก็มีเปลนอนและสะพานเชื่อมต่อถึงกัน สำหรับให้แมวปีนป่าย กระโดดเล่น และลับคมเล็บ เพื่อสร้างความผ่อนคลาย โดยนอกจากจะช่วยให้น้องแมวได้ขยับร่างกายเพื่อปีนป่ายในการลดน้ำหนักได้แล้ว ยังทำให้น้องแมวไม่เครียด ช่วยลดปัญหาการข่วนและทำลายข้าวของภายในบ้านได้อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอนโดแมวจาก Petology สามารถติดตามต่อได้ที่ >> บ้านและคอนโดสัตว์เลี้ยง