แพ้ขนแมว VS แพ้ฝุ่นทรายแมว ทาสคนไหนจามบ่อย ไขข้อสงสัยกัน!!

“แพ้ขนแมว” อาการที่หลายคนกำลังเผชิญเพราะมีอาการจามอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถตัดใจแก้ไขได้เพราะจิตใจที่รักเจ้านายเกินกว่าจะแยกตัวห่างจากกัน แต่ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า อาการจามหรือแพ้ที่เกิดขึ้นนั้น อาจมาจากการแพ้ฝุ่นที่มาจากทรายแมวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงทีเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยอาการแพ้ที่มีความคล้ายคลึงกันมากจึงอาจทำให้ยากต่อการแยกแยะว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไรกันแน่ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับเหล่าทาสได้ลองศึกษา Petology จึงรวบรวมข้อมูลมาฝากในบทความนี้

แพ้ขนแมว VS แพ้ฝุ่นจากทรายแมว เหล่าทาสดูไว้แพ้อะไรจะได้แก้ไขถูก

เป็นที่ทราบกันดีว่า การแพ้ขนแมว เป็นหนึ่งในอาการแพ้ที่พบบ่อย จากการสำรวจพบว่าเกือบหนึ่งในสามของชาวอเมริกันที่เป็นภูมิแพ้ มีอาการแพ้แมวและสุนัข และพบว่ามีผู้ที่มีอาการแพ้แมวมากกว่าผู้ที่มีอาการแพ้สุนัขถึง 2 เท่า แต่สำหรับการระบุสาเหตุของการแพ้ อาจเป็นเรื่องยาก นั่นเป็นเพราะภายในบ้านมีสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น ไรฝุ่น ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้คล้ายกัน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ที่จะต้องยอมรับว่าแมวที่เลี้ยงนั้นกำลังก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ หลายคนก็ยังเลือกที่จะอยู่กับสัตว์เลี้ยงที่รักภายในบ้าน แทนการหลีกเลี่ยงหรือการย้ายสัตว์เลี้ยงออกห่างจากตัว

มาดูกัน!! ส่องลักษณะอาการระหว่าง “แพ้ขนแมว”และ “แพ้ฝุ่น” ต่างกันอย่างไร?

แม้จะเป็นอาการแพ้เหมือนกันแต่ภาวะทั้ง 2 แบบก็มีส่วนที่แตกต่างกันอยู่ ซึ่งอาจเป็นอาการร่วมที่มาพร้อมกับอาการจาม ดังนี้…

อาการแพ้ขนแมว

อาการทั่วไปของการแพ้แมว จะเกิดอาการบวมและอาการคันของเนื้อเยื่อรอบดวงตาและจมูก มักจะนำไปสู่การอักเสบของดวงตา ในบางรายอาจมีผื่นที่ใบหน้า คอ หรือ หน้าอกส่วนบน นอกจากนี้บางคนจะรู้สึกคันจมูก จามบ่อย น้ำมูกไหล ระคายคอหลังจากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ดังกล่าวจากแมว

อาการแพ้ไรฝุ่นหรือฝุ่นทรายแมว

อาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก ปาก หู ตา เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ โดย หลายคนจะเริ่มมีอาการคันผิวหนัง ผิวหนังแห้งและเกิดผื่นแพ้อากาศ ผื่นแพ้ฝุ่น คล้ายเป็นผื่นผิวหนังอักเสบและสำหรับอาการผื่นแพ้อากาศที่ปล่อยจนเรื้อรัง จะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีความหนาขึ้น จนอาจเกิดเป็นรอยคล้ำขึ้น และหากได้มีการเกาที่บริเวณผิวหนังที่เป็นอยู่บ่อย ๆ สามารถทำให้เกิดแผล และเกิดการติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย โดยตำแหน่งที่พบว่าเกิดอาการผื่นแพ้อากาศบ่อย คือ บริเวณ แก้ม ลำคอ ข้อพับแขน และขา

อย่างไรก็ตาม อาการภูมิแพ้แต่ละแบบจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการแพ้ขนแมว หรือ แพ้ฝุ่น โดยแพทย์มักรักษาด้วยยาสเตียรอยด์แบบพ่นจมูก ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน และยาชนิดรับประทานอื่น ๆ ส่วนยาใครที่มีอาการแพ้ขนแมวทางดวงตา แพทย์จะรักษาด้วยยาแก้แพ้ชนิดหยอดตา เป็นต้น

“ทรายแมว” สาเหตุสำคัญของอาการแพ้ฝุ่นที่อันตรายทั้งทาสทั้งเจ้านาย

พออ่านมาถึงส่วนนี้หลาย ๆ คนอาจพอนึกภาพออกแล้วว่าทำไมทรายจึงเกิดฝุ่นขึ้นมาได้ ซึ่งนอกจากฝุ่นที่เกิดขึ้น มันยังมีสารบางชนิดที่มากับฝุ่นในทรายอีกด้วย ทรายแมวที่เรารู้จักโดยทั่วไปมักจะทำมาจากเบนโทไนท์ ก่อให้เกิดฝุ่นในขณะที่แมวกลบฉี่ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแมว หรือคนเลี้ยงเยอะๆเป็นเวลานานๆ อารมณ์เหมือนเราซูดฝุ่น PM2.5 ที่อันตรายเมื่อเข้าสู่ร่างกาย ฝุ่นจากทรายแมวก็เช่นเดียวกัน หากได้รับในปริมาณเยอะและต่อเนื่องจะก่อให้เกิดโรค เช่นโรคระบบทางเดินทางหาย โรคมะเร็งปอด โรคไต และย่อยสลายตามธรรมชาติได้ยาก ดังนั้น ในการเลือกทรายให้กับน้องแมว เราจึงจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

4 วิธีการเลือกทรายแมว ทริคง่าย ๆ ที่ทาสควรนำไปใช้ ป้องกันอาการแพ้ของเจ้านายสุดที่รักและภูมิแพ้ของทาสเอง

ทรายแมวมีหลายประเภท เช่น ทรายแมวเบนโทไนท์ (ทรายแมวภูเขาไฟ) ทรายแมวภูเขาไฟ ทรายแมวธรรมชาติ และทรายแมวคริสตัล แต่ละประเภทก็มีข้อดี – ข้อเสีย แตกต่างกัน เราไปดูกันว่าทรายประเภทไหนเหมาะกับใครและเหมาะกับการใช้งานอย่างไร

1.เลือกทรายแมวเบนโทไนท์ที่เป็น Dust-Free

เพราะคล้ายทรายจริง ลดฝุ่นฟุ้งกระจาย เหมาะกับการเลี้ยงแบบระบบเปิดหรือกึ่งปิดกึ่งเปิด สำหรับในประเทศไทย ทรายแมวเบนโทไนท์ (ทรายแมวภูเขาไฟ) เป็นทรายที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เพราะเป็นทรายแมวตัวแรก ๆ ที่เข้ามาในไทย หาซื้อได้ง่ายอีกทั้งยังมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับทรายประเภทอื่นอีกด้วย

2.เลือกทรายแมวธรรมชาติ (หากเน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและความสะดวกในการทิ้ง)

ความนิยมรองจากทรายแมวภูเขาไฟหรือทรายแมวเบนโทไนท์นั้น คงจะเป็นทรายแมวธรรมชาติ เพราะผู้ที่เลี้ยงแมวในปัจจุบันมีการเลี้ยงเป็นระบบปิดมากขึ้น เช่น การเลี้ยงในห้องพักหรือคอนโดมิเนียมที่ระบบการระบายอากาศอาจไม่ดีเท่าการเลี้ยงในพื้นที่เปิด ดังนั้น การอยู่ร่วมกันระหว่างคนและแมวจึงจำเป็นต้องเลือกทรายแมวที่มีความธรรมชาติ ปลอดภัยต่อร่างกายมากขึ้นนั่นเอง

3.เลือกทรายแมวธรรมชาติที่ทำจากวัสดุที่แห้ง ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและเชื้อรา

โดยปกติแล้วเชื้อราในทรายแมวจะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก แต่สำหรับทรายแมวธรรมชาติที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผ่านกระบวนการผลิตที่ทำให้แห้งได้ไม่ดีพอก็อาจจะทำให้ขึ้นราได้ง่าย นอกจากนี้ การปล่อยให้ของเสียที่แมวขับถ่ายออกมาค้างอยู่ในกระบะทรายเป็นเวลานานโดยไม่กำจัดหรือรีบทำความสะอาดจนเกิดความชื้นสะสมก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อราเช่นกัน

4.ตรวจสอบทรายแมวที่อาจมีส่วนผสมของน้ำหอมเพื่อกลบกลิ่น

ทรายแมวแต่ละประเภทที่กล่าวมาข้างต้นจะมีการใส่กลิ่นต่าง ๆ ลงไป เช่น กลิ่นกาแฟ กลิ่นเลมอน และกลิ่นอื่น ๆ มีจุดประสงค์เพื่อช่วยในการกลบกลิ่นของเสียที่แมวขับถ่ายให้ไม่เหม็นฉุนจนเกินไปนัก รวมถึงช่วยในการสร้างกลิ่นเพื่อให้เจ้าของแมวรู้สึกดี ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เปิดถุงทรายห่อใหม่หรือจะเป็นตอนที่เติมทรายเข้ากระบะ

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมสังเกตความชอบของบรรดาเจ้านายด้วยว่าชอบทรายแบบไหน เพื่อที่จะได้นำมาประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้ออีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ทาสแมวอาจรู้สึกหนักใจเมื่อแมวเป็นภูมิแพ้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะหากรู้วิธีสังเกตและลักษณะอาการของโรค ทาสก็จะสามารถหาวิธีแก้ไขได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจเริ่มต้นด้วยการเลือกทรายให้ตอบโจทย์ทั้งความชอบและเพื่อสุขภาพของเจ้าเหมียวนั่นเอง

SAND HERE ทรายแมวภูเขาไฟ จาก Petology หมดปัญหาแมวจาม ทาสแพ้ฝุ่น ด้วยคุณสมบัติของการปราศจากฝุ่นคลุ้ง 99.9%

 

 

Sand Here ทรายแมวตราแมวถือธงวิ่งขึ้นยาน พร้อมประจัญบานกับของเสียแมวทั่วจักรวาล ใช้กับกระบะทรายธรรมดาก็ได้ ใช้กับห้องน้ำแมวอัตโนมัติยิ่งดี ปลอดภัยไร้สารเคมี มีดีกรีจากอเมริกา ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม >> SAND HERE ทรายแมวภูเขาไฟ

บทความล่าสุด

location
บริษัท เพ็ทโทโลจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 47/356 อาคารไคตัค ชั้น 10 ถ. ป๊อปปูล่า ต. บ้านใหม่ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120

© 2024 Petology. All Rights Reserved.