เลือกเครื่องเป่าขนแมวยังไงให้ถูกใจเจ้านาย สบายกระเป๋าตัง

เครื่องเป่าขนแมวเป็นหนึ่งในไอเทมจำเป็นสำหรับทาสแมวทั้งหลาย เพราะนอกจากจะช่วยให้น้องแมวรู้สึกสบายตัวทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จแล้ว ยังช่วยให้ขนแห้ง ไม่มีจุดอับชื้นซึ่งอาจก่อให้เกิดเชื้อราในแมวตามมาได้อีกด้วย แล้วถ้าคุณสนใจอยากจะซื้อเครื่องเป่าขนมาใช้สักเครื่องจะต้องเลือกจากอะไร ยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาแชร์กัน

ทำไมทาสแมวต้องใช้เครื่องเป่าขนแมว

ต้องเข้าใจธรรมชาติของแมวก่อนว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีบรรพบุรุษอาศัยอยู่พื้นที่แห้งแล้ง ดังนั้นร่างกายของน้องจึงมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 36.72-38.94 องศาเซลเซียส จึงทำให้ร่างกายสามารถทนต่อความร้อนได้มากกว่ามนุษย์ และที่สำคัญขนของแมวยังจับตัวกันง่ายเมื่อโดนน้ำ นอกจากจะทำให้น้องรู้สึกหนักตัว เคลื่อนไหวไม่สะดวกแล้ว น้ำยังไปลดอุณหภูมิในร่างกายน้องลงจนอาจทำให้น้องป่วยได้ แต่การจับน้ำน้องอาบน้ำก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่เหล่าทาสไม่ควรละเลย เพราะหากเราไม่ได้พาน้องมาอาบน้ำเลย เศษฝุ่น เชื้อโรค หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ อาจตกค้างอยู่ในขนของแมวเป็นเวลานานจนก่อให้เกิดโรคเชื้อราแมวและโรคขี้เรื้อนดีโมเด็กซ์ ดังนั้นสิ่งที่ทาสแมวควรทำนอกจากจะหาวิธีพาน้องอาบน้ำแล้ว นั่นคือการเป่าขนให้แห้ง เพื่อให้ขนของน้องกลับมาแห้งและเคลื่อนไหวได้สะดวกเหมือนเดิม

แต่การที่จะทำให้ขนน้องแห้งภายในระยะเวลาอันสั้นนั้นไม่สามารถเช็ดตัวน้องได้ด้วยผ้าขนหนูเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องใช้ลมร้อนเข้าช่วยด้วยเช่นกัน หลายคนเลือกจะใช้ไดร์เป่าผมมาเป่าน้อง แต่นั่นอาจเป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะหูของน้องแมวจะได้ยินเสียงชัดมากกว่ามนุษย์ ดังนั้นเสียงดัง ๆ ของตัวเครื่องอาจทำให้น้องรู้สึกกลัวและไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย ๆ จะดิ้นหนีไดร์เป่าอย่างแน่นอน หรือหากทาสเลือกที่จะเช็ดขนน้องด้วยผ้าขนหนูก็อาจเช็ดได้ไม่แห้งในบางจุด หากปล่อยขนน้องอับชื้นนาน ๆ ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพผิวหนังน้องได้ด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทาสแมวหลายคนตัดสินใจเลือกใช้เครื่องเป่าขนเพื่อแก้ปัญหาขนเปียกหลังอาบน้ำน้องแมว

ข้อดีของเครื่องเป่าขนแมว

  • ประหยัดเวลาเป่าขนให้น้องให้เหลือเพียง 30-45 นาทีเท่านั้น
  • เป่าแห้งทุกจุด ลดปัญหาเป่าขนไม่ทั่วถึง
  • กำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียบนขนน้องได้ดี
  • ตัวเครื่องทำงานเบา ไม่ทำให้น้องรู้สึกกลัวหรือรำคาญ
  • ภายในเครื่องมีพื้นที่เพียงพอให้แมวเคลื่อนไหวได้สะดวก
  • ตัวเครื่องเคลื่อนย้ายพกพาได้สะดวก

ข้อควรรู้ของเครื่องเป่าขนแมว

  • ราคาสูงกว่าไดร์เป่าขนแมวทั่วไป
  • ตัวเครื่องไม่เหมาะสำหรับน้องแมวน้องหมาตัวใหญ่
  • กินไฟในระดับนึง เนื่องจากต้องรักษาอุณหภูมิตัวเครื่องให้คงที่
  • อาจทำให้ดวงตาน้องแมวแห้งหากตัวเครื่องคุณภาพไม่ดี

วิธีเลือกซื้อเครื่องเป่าขนแมวด้วยตัวคุณเอง

1. เลือกตามขนาดน้องแมว

แน่นอนว่าขนาดน้องแมวของแต่ละวันไม่เหมือนกัน หากน้องแมวของคุณตัวเล็กกระจิ๋วหลิ๋วก็ควรเลือกเครื่องขนาดเล็กหรือขนาดกลางเพื่อให้น้องมีพื้นที่ในการเดินเล่นแก้เบื้อ มีพื้นที่ให้นอนรอขนแห้ง ไม่ควรเลือกเครื่องที่มีขนาดพอดีเกินไปเพราะอาจทำให้น้องแทบไม่มีพื้นที่ขยับตัวจนสร้างความอึดอัดและทำให้น้องไม่อยากเข้าเครื่องอีกเลย แต่หากคุณไม่แน่ใจแนะนำให้พาน้องไปเลือกซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์แมวจะดีที่สุด

2. เลือกจากเสียงที่ออกมาจากตัวเครื่อง

ด้วยความที่หูของน้องจะได้ยินเสียงมากกว่ามนุษย์ ดังนั้นการเลือกเครื่องเป่าที่เสียงประมาณ 45-50 เดซิเบล จึงถือว่าค่อนข้างเงียบสำหรับน้องแมวเป็นอย่างมาก ส่วนตัวทาสนั้นก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยด้วยซ้ำ

3. เลือกจากกระจกใสและช่องระบายอากาศที่เหมาะสม

การมีกระจกใสจะช่วยให้น้องแมวรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเพราะได้เห็นเหล่าทาสอยู่ในสายตา และช่วยให้เรามองเห็นเหล่าเจ้านายด้วยว่ามีปฏิกิริยากับตัวเครื่องอย่างไรบ้าง ส่วนช่องระบายอากาศนั้นจะต้องปล่อยความร้อนพร้อมทั้งมีช่องที่ช่วยให้น้อง ๆ หายใจสะดวกไม่ต่างจากตอนที่อยู่ข้างนอกเครื่องเลย

4. ฟังก์ชันการใช้งาน

ปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตหลายรายพัฒนาให้สามารถสั่งงานตัวเครื่องผ่านทางแอปพลิเคชันของแบรนด์นั้น ๆ แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ทาสแมวได้รู้สถานะการทำงานของเครื่องได้ตลอดเวลา หากเกิดปัญหาอะไรก็สามารถรับรู้และเอาน้องออกมาจากเครื่องได้ทันที แต่หากเครื่องรุ่นไหนยังไม่มีระบบแบบนี้ก็อาจต้องพิจารณาส่วนอื่น ๆ ร่วมด้วย

5. เลือกจากวัสดุ

วัสดุก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากคุณเลือกเครื่องเป่าขนราคาถูกที่ผลิตจากวัสดุไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจมีปัญหาขัดข้องขณะใช้งานได้ง่าย นอกจากจะทำให้น้องแมวรู้สึกอึดอัด ขยับตัวไม่สะดวกแล้ว หากวันดีคืนดีเครื่องมีปัญหา ไม่สามารถเปิดออกได้ยามฉุกเฉิน ก็อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตน้องแมวได้เช่นกัน ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณเลือกวัสดุที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองมาตรฐานสินค้ามาแล้ว และที่สำคัญเครื่องเป่าขนที่ดีควรมีการรับประกันสินค้า หากเครื่องมีปัญหามาหลังจากซื้อได้ไม่นานก็สามารถเคลมสินค้าได้ทันที

6. เลือกจากราคา

เนื่องจากวัสดุคุณภาพดีมักมีราคาสูง ดังนั้นหากคุณต้องการจะซื้อเครื่องเป่าขนคุณภาพดีจริง ๆ แนะนำให้เก็บเงินซื้อเครื่องดี ๆ เครื่องเดียวใช้ได้นาน ๆ ไปเลย แต่หากคุณมีงบประมาณนึงอาจจะต้องมองดูการผ่อนที่คุณสามารถจ่ายไหวโดยไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋ามากนัก เนื่องจากทุกวันนี้ราคาเครื่องเป่าขนแมวของแต่ละแบรนด์มีให้เลือกหลากหลาย ดังนั้นแนะนำให้ดูโปรโมชันของแต่ละแบรนด์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อเครื่องเป่าขน

7. เลือกจากรีวิว

แม้ว่าจะมีโปรโมชันลดแลกแจกแถมมากแค่ไหน แต่อีกสิ่งนึงที่ทาสแมวทั้งหลายไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือรีวิวการใช้งานจริง เพราะหากคุณซื้อเครื่องราคาถูกไปใช้แต่ผ่านมาไม่นานเครื่องกลับมาปัญหา ซ่อมแล้วซ่อมอีก แถมซ่อมในช่วงหมดประกันแล้วด้วยก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ นอกจากนี้อย่าลืมดูรีวิวการให้คะแนนของผู้ใช้งานจริงหลาย ๆ คนด้วยว่าตัวเครื่องมีปัญหาจุกจิกหรือไม่ เสียค่าซ่อมหลังหมดประกันแพงไหม แอดมินตอบคำถามหรือเอาใจใส่หลังการขายมากน้อยแค่ไหน หากดูรีวิวแล้วรู้สึกได้ไม่คุ้มเสียก็ให้ตัดใจจากร้านนั้นไปเลย

8. เลือกจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

และสิ่งสำคัญที่สุดควรเลือกแบรนด์หรือผู้นำเข้าที่เชื่อถือได้ เพราะหากคุณซื้อทั้ง ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย ก็อาจเสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพหลอกเอาของปลอมมาขายหรือเสียงเงินฟรีทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สินค้ามาเลย ดังนั้นทาสแมวทั้งหลายควรทำการบ้านเกี่ยวกับแบรนด์หรือร้านนำเข้าสินค้าแมวกันสักนิดเพื่อความปลอดภัยต่อตัวน้องแมวจะดีที่สุด

บทความที่น่าสนใจ

เครื่องเป่าขนแมว ยี่ห้อไหนดี

PEPE DR-100 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง มาพร้อมระบบการทำงานของตู้อบโดยใช้ระบบหมุนเวียนความร้อน ต่างจากการไดร์รีดน้ำทั่วไป จึงช่วยประหยัดเวลาให้แก่ทาสแมวได้เป็นอย่างดีและเหมาะกับน้องแมวที่กลัวเสียงไดร์ เพราะตัวเครื่องส่งเสียงเบาประมาณ 45-50 เดซิเบล ค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับไดร์เป่าผมคนที่มีความดังมากถึงหรือมากกว่า 90 เดซิเบล นอกจากนี้ยังมีระบบบำบัดด้วยแสง (Light Therapy) โดยแสงสีแดง จะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังเพิ่มความชุ่มชื้น รักษาบาดแผลรอยเการอยข่วนให้หายเร็วขึ้น ส่วนแสงสีน้ำเงิน 1 shade รองลงมาจากสีม่วง (UV) จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และแสงสีขาวจะช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์ บรรเทาความเครียดและช่วยกระตุ้นสารเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ช่วยให้น้องอารมณ์ดี มีความสุขมากขึ้น และที่สำคัญยังมีโหมด UV-C สำหรับกำจัดเชื้อโรคในตู้ ทาสแมวทั้งหลายจึงมั่นใจได้เลยว่าตัวเครื่องสะอาด ปลอดภัยต่อน้องแมวแน่นอน หรือหากทาสมีแมวตัวเล็ก ๆ มากกว่า 1 ตัวก็สามารถนำน้องมาอบพร้อมกันได้เลย เหมาะสำหรับน้องแมวน้องหมาที่มีขนาดไม่เกิน 11 กิโลกรัม ตัวเครื่องปรับอุณหภูมิได้ 25-40 องศา ใช้ระยะเวลาในการทำให้ขนแห้งจะขึ้นอยู่กับขนาดและเนื้อขนอยู่ที่ประมาณ 30 นาที – 2 ชั่วโมง ตู้โปร่งระบายอากาศรอบทิศทาง แกะล้างทำความสะอาดง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมืออื่นเพิ่มเติมด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: PEPE DR-100 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง

ซื้อของใช้แมว ที่ไหนดี ทำไมต้อง Petology Thailand

Petology Thailand

Petology Thailand เป็นศูนย์รวมนวัตกรรมสำหรับคนเลี้ยงสัตว์สมัยใหม่ เราเป็นกลุ่มวิศวกรรักสัตว์ที่ล้วนแต่เป็นทาสน้องหมาน้องแมวกันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ด้วยความรักที่มีต่อน้อง ๆ และประสบการณ์ทางด้านวิศวกรที่มีมาอย่างยาวนานถึง 15 ปี เราจึงคัดสรรสินค้าคุณภาพดีที่สุดเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการต่าง ๆ ให้แก่ผู้เลี้ยงสมัยใหม่ ทั้งในด้านของฟังก์ชันที่สะดวกต่อการใช้งาน, คุณภาพของสินค้าจากวัสดุคุณภาพสูง, ความปลอดภัยต่อผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยง รวมถึงรูปลักษณ์ที่ทันสมัย โดนใจผู้เลี้ยงรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำแมวอัตโนมัติ เครื่องให้อาหารแมว ของเล่นแมว รถเข็นสัตว์เลี้ยง ระบบดูแลสุขภาพ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

Petology Thailand ดำเนินการด้วยนโยบายการทำธุรกิจในรูปแบบของผู้ผลิตและพัฒนาสินค้า ส่งตรงถึงลูกค้า โดยมี 3 สิ่งที่เรายึดถือมาโดยตลอด ได้แก่ Integrity ความซื่อสัตย์ที่มีต่อลูกค้าและพนักงานในบริษัท, Quality คุณภาพของสินค้า และ Satisfaction ความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าของเรารู้สึกอุ่นใจและได้รับความพึงพอใจมากที่สุดจากการให้บริการของเรา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: สินค้าของเรา PETOLOGY

บทความล่าสุด

location
บริษัท เพ็ทโทโลจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 47/356 อาคารไคตัค ชั้น 10 ถ. ป๊อปปูล่า ต. บ้านใหม่ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120

© 2024 Petology. All Rights Reserved.