อาบน้ำให้แมวแล้วแมวซึม ถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้แต่ก็ไม่ควรปล่อยปะละเลยเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีของเหล่าทาสแมวว่า น้องแมว นั้นเป็นสัตว์ที่ไม่ถูกกับน้ำและมักจะเห็นกันบ่อย ๆ ว่าเมื่อไหร่ที่น้ำสัมผัสกับขนของน้อง ๆ เมื่อไหร่ ก็เป็นอันต้องเลียให้ขนแห้งเมื่อนั้น อย่างไรก็ตาม การที่ต้องโดนน้ำหรืออาบน้ำบ่อย ๆ ทำให้น้องแมวเกิดความเครียดได้ง่าย ดังนั้น เพื่อให้เหล่าทาสรู้แนวทางการแก้ไขปัญหานี้ให้ทันการมากขึ้น ในบทความนี้เรามีแนวทางแก้ไขมาฝาก
อาบน้ำให้แมวแล้วแมวซึม เกิดจากอะไร ควรป้องกันอย่างไรให้น้องแมวสบายใจขึ้น?
หลายคนเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์สะอาด และมักเลียขนตัวเองเพื่อทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ แต่ความจริงแล้ว การเลียขนของน้องแมวนั้นไม่ได้ทำให้มีความสะอาดขึ้นเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะแมวที่มีขนยาว เพราะมีความหนาของขนมาก อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำนั้นถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้องแมวนั้นเกิดภาวะเครียดได้ ซึ่งความเครียดในช่วงสั้น ๆ ไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าต้องเครียดในระยะยาว การกระตุ้นร่างกายก็จะยาวนานไปด้วย ย่อมเกิดผลเสียกับร่างกายของแมวแน่นอน ดังนั้น เหล่าทาสจึงควรรู้เท่าทันภาวะอาการนี้เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อน้องแมวมากเกินควร
ทำไม “การอาบน้ำ” จึงทำให้น้องแมวเครียด?
ต้องบอกก่อนว่าลักษณะขนของแมวนั้นแตกต่างจากขนของสุนัข จะสังเกตว่าเมื่ออาบน้ำสุนัขเสร็จแล้วมันจะสลัดขนของมันเพื่อเอาน้ำออกอย่างง่ายดาย ขณะที่ขนของแมวแตกต่างออกไป เพราะมันมีลักษณะคล้ายกับขนสัตว์ ซึ่งจะหนักและเปียกโชกเมื่อโดนน้ำ ทั้งยังส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายของน้องแมวเย็นลงอีกด้วย
อีกเหตุผลหนึ่งที่แมวไม่ชอบน้ำเป็นเรื่องของกลิ่น เพราะพวกมันมีประสาทรับกลิ่นที่เหนือกว่ามนุษย์ โดยมนุษย์อาจมีตัวรับกลิ่นเพียง 5 ล้านตัวในจมูก ขณะที่แมวมีถึง 200 ล้านตัว และด้วยเหตุนี้ทำให้มันได้กลิ่นสารเคมีจำนวนมากที่ละลายอยู่ในน้ำ
แมวมีวิธีรักษาความสะอาดของมันเอง โดยไม่ต้องอาบน้ำ แมวใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเลียและทำความสะอาดตนเอง ลิ้นของพวกมันเสมือนแปรงผมขนาดเล็กที่ช่วยหวีและกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ส่วนน้ำลายช่วยให้พวกมันมีกลิ่นตัว ซึ่งอาจใช้ในการถูไถตัวเองกับสิ่งต่าง ๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้มีกลิ่นของพวกมันติดอยู่นั่นเอง
แมวเครียดเพราะอาบน้ำ อาการ มีอะไรบ้าง?
ความเครียดแบบเฉียบพลันในแมวมักเกิดจากการเหตุการณ์ที่แมวไม่คาดคิด หรือเหตุการณ์ที่ทำให้แมวเกิดความหวาดกลัวในช่วงเวลานั้น อาการและการแสดงออกที่บ่งบอกว่าแมวเกิดความเครียดแบบเฉียบพลัน คือ…
- แมวจะไม่ยอมออกมาเคลื่อนตัว หลบอยู่นิ่ง ๆ
- นั่งหมอบ ตัวสั่น นั่งเก็บขา นั่งงอขา
- หายใจเร็ว สังเกตเห็นได้จากบริเวณช่องท้องหรืออกยุบเข้าออกเร็ว
- หางม้วนลงด้านล่าง
- ศีรษะก้มกดลงต่ำกว่าล่ำตัว ไม่เคลื่อนไหวดวงตาเปิดเต็มที่ และรูม่านตาขยายใหญ่เต็มที่
- หูลู่แบนราบไปด้านหลังศีรษะ
- หนวดลู่ไปทางด้านหลัง
- มีการเปล่งเสียงเหมียว ร้องโหยหวน คำราม
- มีเสียงขู่ฟู คำราม ตัวสั่น น้ำลายไหล
- ปัสสาวะและอุจจาระโดยไม่ตั้งใจ
- แสดงพฤติกรรมความก้าวร้าวหากสิ่งกระตุ้นเข้าไปใกล้
อย่างไรก็ตาม เราสามารถช่วยบรรเทาความเครียดของแมวได้ ยิ่งถ้าเรารู้ว่าอะไรคือสิ่งกระตุ้นที่ทำให้แมวเครียด ก็พยายามเลี่ยงการให้แมวอยู่กับสิ่งนั้นให้มากและพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องแมวต้องพบเจอสถานการณ์ที่ทำให้เครียดมากกว่าเดิมได้อีก
ไขข้อสงสัย! อาบน้ำให้น้องแมวควรอาบกี่ครั้งถึงจะเหมาะสม?
แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่มีนิสัยรักความสะอาด ชอบเลียที่ขนของตัวเองเป็นประจำเพื่อทำความสะอาด แต่แท้จริงแล้วพฤติกรรมเลียขนไม่ได้ทำให้แมวสะอาดอย่างแท้จริง ดังนั้น การอาบน้ำแมวจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้เลี้ยงควรอาบน้ำประมาณ 1-3 เดือนครั้ง ส่วนแมวพันธุ์ขนยาวก็ควรอาบน้ำ 1-2 เดือนครั้ง เพราะขนอาจมีการสะสมของเชื้อโรคได้ง่ายกว่า
ขั้นตอนการอาบน้ำน้องแมวที่ถูกต้อง สำหรับทาสมือใหม่หัดอาบน้ำให้น้องแมว
การอาบน้ำก็ควรทำอย่างมีขั้นตอน ที่ถูกวิธี ซึ่งจะช่วยให้น้องแมวสะอาด ผิวหนังไม่ระคายเคือง และไม่เสียเวลาอาบนานจนเกินไปอีกด้วย โดยขั้นตอนคร่าวๆ ก็จะมีดังนี้…
- นำน้ำลูบทำความสะอาดขน โดยระวังอย่าให้น้ำโดนบริเวณส่วนหัว
- ฟอกแชมพูไปที่ขนทั่วตัว ยกเว้นใบหู หน้า และจมูก
- ล้างทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม จนกว่าฟองจะออกจนหมด
- ใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาด นำมาเช็ดบริเวณหัว ใบหน้า จมูก และใบหู หลังจากนั้นนำสำลีชุบน้ำเช็ดบริเวณด้านในหู
- ซับน้ำด้วยผ้าขนหนูให้แห้ง ก่อนนำไดร์เป่าขนเบอร์ระดับต่ำสุด เพื่อไม่ให้น้องแมวตกใจกลัว เป่าจนกว่าจะมั่นใจว่าแห้งสนิท โดยอย่าลืมตรวจสอบบริเวณขนด้านใน โดยเฉพาะแมวที่มีขนยาว
โดยนี่เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเจ้าของบางท่านอาจมีขั้นตอนการอาบน้ำที่แตกต่างกันออกไปได้เช่นกัน
“เครื่องเป่าขน” หลังอาบน้ำเสร็จ ช่วยให้น้องแมวขนแห้งไวขึ้น หมดกังวลปัญหาแมวเครียดจากการอาบน้ำ
น้องแมว กับน้ำ เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนาน เพราะกว่าจะจับอาบน้ำได้แต่ละที ต้องงัดทุกกลเม็ดเทคนิคให้น้องแมวยอมโดนน้ำ หลังจากนั้นยังต้องมาจับเป่าขนอีก พูดเท่านี้เชื่อว่าทาสแมวหลายคนคงเข้าใจสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำเป่าขนที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น อาจส่งผลให้แมวเกิดความเครียดได้ และยังรวมไปถึงการเป็นเชื้อรา และโรคผิวหนังด้วยเช่นกัน
ดังนั้น การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากภาวะเชื้อราของน้องแมวสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำหรือเป่าขนไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดภาวะความเครียดในแมวได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรมีเครื่องเป่าขนสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากพอเพื่อเป่าขนของน้องแมวให้แห้งโดยไวที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดที่น้องแมวต้องเจอได้ง่ายขึ้น
ติดตามรายละเอียดเครื่องเป่าขน จาก Petology เพิ่มเติมที่…
PEPE DR-300 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง
PEPE DR-100 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรลืมคือต้องเลือก เป่าขนด้วยเครื่องเป่าลมที่มีกำลังสูง แต่มีเสียงที่เบา จึงทำให้น้องแมวไม่ตกใจง่าย พร้อมกันนี้ยังสามารถเป่าขนได้แห้งทั้งขนชั้นนอก และขนชั้นในสำหรับน้องแมวที่มีขนหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด