แมวขนร่วงที่หาง อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นบ่อยในน้องแมว แต่เหล่าทาสน้อยคนมาก ๆ ที่จะทราบว่าปัญหานี้เกิดจากอะไรกันแน่ แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่าอาการขนร่วงของน้องแมวนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการร่วงเฉพาะบริเวณ เหล่าทาสหลาย ๆ คนก็คงจะอดเป็นห่วงและอดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่และควรจะรักษาอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวปัญหาขนร่วงที่หางของน้องแมวและวิธีการดูแลไปพร้อม ๆ กัน
แมวขนร่วงที่หาง ที่เดียว เกิดจากอะไร เป็นอันตรายต่อน้องแมวหรือเปล่า?
หนึ่งในปัญหายอดฮิตที่มาคู่กับสัตว์เลี้ยงมีขนอย่างน้องแมวคงหนีไม่พ้นกับปัญหา “แมวขนร่วง” เนื่องจากแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องผลัดขนตามฤดูกาล แต่สำหรับบางครั้งเจ้าของเห็นปริมาณที่แทบจะปั้นเป็นแมวได้อีกตัวก็กังวลว่า นี่เป็นการผลัดขนปกติ หรือเจ้านายมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังกันแน่ ซึ่งการร่วงของขนน้องแมวนั้นก็จะแสดงออกได้หลายรูปแบบ
เหล่าทาสต้องรู้ไว้! ขนแมวร่วงจนเห็นหนังอาจเป็นสัญญาณโรคผิวหนังเหล่านี้
โดยทั่วไปแล้ว สาเหตุของภาวะขนร่วงในน้องแมวนั้นเกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ ปัจจัย แต่หากเจาะจงไปที่โรคผิวหนัง ก็สามารถแยกออกได้ตามโรคต่าง ๆ ดังนี้…
1.โรคเชื้อรา
โรคกลาก (Ringworm) และโรคเชื้อราอื่น ๆ ทำให้แมวขนร่วง มีรอยแดง และผิวหนังตกสะเก็ดเป็นวงกลมได้ เพื่อยับยั้งไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น สัตวแพทย์มักใช้ใช้ยาต้านเชื้อราหรือแชมพูยา และแนะนำให้ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบเป็นประจำ
2.โรคผิวหนังจากความผิดปกติของฮอร์โมน
แมวเป็นโรคผิวหนังจากความผิดปกติของฮอร์โมนได้เช่นกัน อาจเกิดจากภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินหรือกลุ่มอาการคุชชิง อาการที่พบได้คือขนร่วง ผิวหย่อนยาน และมีบาดแผล ปัญหาเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการรักษาความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ซึ่งโดยทั่วไปทำโดยการให้ยาหรือผ่าตัด
3.โรคขี้เรื้อน
โรคนี้เกิดจากตัวไรที่ขุดโพรงอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้แมวขนร่วง มีอาการคันและระคายเคืองจนส่งผลให้เกาหรือเลียตัวมากผิดปกติ รวมถึงมีผิวแห้งลอกเป็นขุยเป็นสะเก็ดและมีรอยแดง สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ใช้แชมพูยา ยาทาเฉพาะที่ หรืออาจต้องกินยาเพื่อรักษาอาการตามความเหมาะสม
4.โรคภูมิแพ้
เป็นหนึ่งในโรคผิวหนังของแมวที่พบบ่อย เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสร ไรฝุ่น และสารเคมีบางชนิด แมวอาจมีอาการคันอย่างรุนแรง มีผื่นแดง หรือติดเชื้อบริเวณผิวหนัง สัตวแพทย์จะตรวจหาและจำกัดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ควบคู่ไปกับการให้ยาแก้แพ้หรือรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
อย่างไรก้ตาม นี่เป็นสาเหตุของอาการขนร่วงของน้องแมวที่อาจเป็นสัญญาณจากโรคผิวหนังเท่านั้น ซึ่งอาจมาจากปัจจัยอื่น ๆ ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่ทาสต้องทราบเอาไว้ คือ อาการขนร่วงในแมวที่เกิดจากโรคต่าง ๆ อาจส่งผลต่อมนุษย์ และเป็นโรคติดต่อได้ ยกตัวอย่างเช่น เชื้อราแมว สามารถติดต่อสู่คนได้ง่าย การที่เราอยู่ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง นั่นเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดต่อกันได้สูงมาก ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหานี้ควรเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ขนน้องแมวร่วงที่หางที่เดียว เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณของโรคร้ายในแมวหรือเปล่า?
การที่น้องแมวมีอาการขนร่วงหางหรือบริเวณโคนหางนั้น ก็เกิดจากการทำงานมากไปของต่อมไขมันบริเวณหางเช่นกัน จึงเกิดเป็นคราบเยิ้ม ๆ สีน้ำตาล ไปจนถึงสีดำ มีชื่อเรียกว่า Stud tail (หางสตั๊ด หรือ หางเหนียว) โดยในแมวเพศผู้ที่ยังไม่ได้ทำหมัน จะพบปัญหานี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากการผลิตสารของต่อมไขมัน มีความสัมพันธ์กับอิทธิพลของฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนในแมวเพศผู้ แต่ในส่วนของแมวเพศผู้ที่ทำหมันแล้ว และแมวเพศเมียก็สามารถพบ Stud tail ได้เช่นกัน
ผิวหนังของน้องแมว ป้องกันและรักษาอย่างไร?
โดยปกติ การรักษาจะแตกต่างกันไปตามอาการ สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลา 3 – 4 สัปดาห์ และอาจให้ใช้แชมพูยาหรือยาทาเฉพาะที่ อย่างไรก็ตาม “การป้องกัน” ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพผิวหนังของแมว เหล่าทาสสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังในแมวได้ด้วยการเลือกโภชนาการที่เหมาะสม แปรงขนและป้องกันเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ ดูแลป้องกันโรคภูมิแพ้ผิวหนัง จัดการกับความเครียด และพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ ซึ่งการระบุสาเหตุและรักษาโรคผิวหนังตั้งแต่เนิ่น ๆ มีความสำคัญมาก หากพบความเปลี่ยนแปลงหรืออาการผิดปกติ แนะนำให้พาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลเมื่อเกิดภาวะ บริเวณหางหรือโคนหาง เหล่าทาสสามารถดูแลโดยการการใช้กลุ่มยาทาภายนอกต้านแบคทีเรีย เช่น Chlorhexidine เช็ด และ ทำความสะอาดบริเวณผิวหนังวันละ 2-3 ครั้ง , ยา Mupirocin ทาต้านแบคทีเรีย เป็นต้น
สำหรับในรายที่มีอาการรุนแรง เช่น มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน จนเกิดการอักเสบของรูขุมขน จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดกิน ระยะเวลา 2-6 สัปดาห์ รวมถึง การให้ยาลดอักเสบกลุ่มสเตียรอยด์ระยะสั้น ๆ ร่วมกับการรักษา ในแมวที่มีขนยาว จะแนะนำให้มีการไถขนบริเวณใต้คาง และ โคนหางให้สั้น เพื่อง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาดในทุก ๆ วันร่วมกันด้วย
ป้องกันการเกิดโรคผิวหนังในน้องแมวด้วย “เครื่องเป่าขน” ขจัดแบคทีเรียและความชื้นอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคในสัตว์เลี้ยง
น้องแมว กับน้ำ เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนาน เพราะกว่าจะจับอาบน้ำได้แต่ละที ต้องงัดทุกกลเม็ดเทคนิคให้น้องแมวยอมโดนน้ำ หลังจากนั้นยังต้องมาจับเป่าขนอีก พูดเท่านี้เชื่อว่าทาสแมวหลายคนคงเข้าใจสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำเป่าขนที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น อาจส่งผลให้แมวเป็นเชื้อรา และโรคผิวหนังได้
ดังนั้น การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากภาวะเชื้อราของน้องแมวสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำหรือเป่าขนไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดโรคเชื้อราในแมวได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรมีเครื่องเป่าขนสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากพอทั้งในส่วนของการเป่าขนให้แห้งและกำจัดแบคทีเรียให้หมดไปเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราให้ดีมากขึ้น
ติดตามรายละเอียดเครื่องเป่าขน จาก Petology เพิ่มเติมที่…
PEPE DR-300 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง
PEPE DR-100 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรลืมคือต้องเลือก เป่าขนด้วยเครื่องเป่าลมที่มีกำลังสูง แต่มีเสียงที่เบา จึงทำให้น้องแมวไม่ตกใจง่าย พร้อมกันนี้ยังสามารถเป่าขนได้แห้งทั้งขนชั้นนอก และขนชั้นในสำหรับน้องแมวที่มีขนหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด