Uncategorized

แมวฉี่น้อยมาก เป็นอะไรหรือเปล่า เป็นสัญญาณอันตรายของโรคร้ายหรือไม่? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่เหล่าทาสหลาย ๆ บ้านกำลังสงสัยและหาคำตอบ เนื่องจากน้องแมวอาจกำลังประสบปัญหานี้อยู่ก็เป็นได้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าพฤติกรรมน้องแมวที่ฉี่น้อยลงนั้น แม้จะดูไม่แปลกแต่ก็เป็นเรื่องที่ทาสไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่งเพราะมันสามารถส่งผลต่อสุขภาพของน้องแมวได้ร้ายแรงมากทีเดียวหากปล่อยไว้เรื่อย ๆ โดยไม่รักษา แมวฉี่น้อยมาก สัญญาณอันตรายของโรคทางเดินปัสสาวะที่เหล่าทาสไม่ทันระวัง ปัจจุบันมีผู้ให้การสนใจเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้นโดยเฉพาะแมว เนื่องจากเพราะความน่ารัก ความช่างเอาใจของเจ้าแมวน้อยหรืออาจจะเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้ผู้เลี้ยงหรือที่ผู้ที่ได้อยู่ใกล้นั้นตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย ภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว แต่นอกจากเลี้ยงได้แล้ว เราก็ควรต้องรู้และสังเกตอาการรวมถึงความผิดปกติที่เกิดกับแมวของเราเป็นด้วย ซึ่งความผิดปกติหนึ่งที่พบได้บ่อยในแมวนั้นก็คือ ภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของอาการฉี่น้อยนั่นเอง กระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว คืออะไร อันตรายต่อแมวอย่างไรบ้าง? กระเพาะปัสสาวะอักเสบในแมว คือ การที่ผนังกระเพาะปัสสาวะมีการหนาตัวและอักเสบ โดยมักจะมีการสะสมของตะกอนโปรตีน นิ่วหรือก้อนลิ่มเลือดเป็นส่วนมาก การอักเสบที่เกิดขึ้นนี้มักเกิดร่วมไปถึงท่อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างที่ต่อจากกระเพาะปัสสาวะไปจนถึงท่อปัสสาวะส่วนปลายได้ และสาเหตุใหญ่ๆ ของการอักเสบนั้นมักเกิดจากการติดเชื้อ เช่น แบคทีเรีย หรือจากการไม่ติดเชื้อ เช่น การมีนิ่ว เป็นต้น ภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้นส่วนใหญ่เราพบได้ทั้งในแมวเพศผู้และเพศเมีย แต่ในแมวเพศผู้มักจะพบได้มากกว่า เนื่องจากโครงสร้างของระบบทางเดินปัสสาวะที่ซับซ้อนและง่ายต่อการอุดตันมากกว่าในเพศเมีย โดยในกรณีที่อาการดำเนินหน้าไปอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับการรักษา แมวจะเริ่มมีอาการอ่อนแรง อาเจียน และเข้าสู่สภาวะช็อคได้ในที่สุด สังเกตได้อย่างไรว่าแมวของเราเริ่มมีปัญหานี้ ? เจ้าของสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้… เข้ากระบะทรายเป็นเวลานานและมีการเบ่งถ่ายมากกว่าปกติ ไม่พบปัสสาวะในกระบะทรายหลังจากแมวขับถ่าย […]

“แพ้ขนแมว” อาการที่หลายคนกำลังเผชิญเพราะมีอาการจามอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถตัดใจแก้ไขได้เพราะจิตใจที่รักเจ้านายเกินกว่าจะแยกตัวห่างจากกัน แต่ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า อาการจามหรือแพ้ที่เกิดขึ้นนั้น อาจมาจากการแพ้ฝุ่นที่มาจากทรายแมวได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงทีเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยอาการแพ้ที่มีความคล้ายคลึงกันมากจึงอาจทำให้ยากต่อการแยกแยะว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไรกันแน่ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับเหล่าทาสได้ลองศึกษา Petology จึงรวบรวมข้อมูลมาฝากในบทความนี้ แพ้ขนแมว VS แพ้ฝุ่นจากทรายแมว เหล่าทาสดูไว้แพ้อะไรจะได้แก้ไขถูก เป็นที่ทราบกันดีว่า การแพ้ขนแมว เป็นหนึ่งในอาการแพ้ที่พบบ่อย จากการสำรวจพบว่าเกือบหนึ่งในสามของชาวอเมริกันที่เป็นภูมิแพ้ มีอาการแพ้แมวและสุนัข และพบว่ามีผู้ที่มีอาการแพ้แมวมากกว่าผู้ที่มีอาการแพ้สุนัขถึง 2 เท่า แต่สำหรับการระบุสาเหตุของการแพ้ อาจเป็นเรื่องยาก นั่นเป็นเพราะภายในบ้านมีสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น ไรฝุ่น ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้คล้ายกัน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ที่จะต้องยอมรับว่าแมวที่เลี้ยงนั้นกำลังก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ หลายคนก็ยังเลือกที่จะอยู่กับสัตว์เลี้ยงที่รักภายในบ้าน แทนการหลีกเลี่ยงหรือการย้ายสัตว์เลี้ยงออกห่างจากตัว มาดูกัน!! ส่องลักษณะอาการระหว่าง “แพ้ขนแมว”และ “แพ้ฝุ่น” ต่างกันอย่างไร? แม้จะเป็นอาการแพ้เหมือนกันแต่ภาวะทั้ง 2 แบบก็มีส่วนที่แตกต่างกันอยู่ ซึ่งอาจเป็นอาการร่วมที่มาพร้อมกับอาการจาม ดังนี้… อาการแพ้ขนแมว อาการทั่วไปของการแพ้แมว จะเกิดอาการบวมและอาการคันของเนื้อเยื่อรอบดวงตาและจมูก มักจะนำไปสู่การอักเสบของดวงตา ในบางรายอาจมีผื่นที่ใบหน้า คอ หรือ หน้าอกส่วนบน นอกจากนี้บางคนจะรู้สึกคันจมูก จามบ่อย น้ำมูกไหล

แมวจามบ่อย เกิดจาดอะไรกันแน่? เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่น้องแมวมีอาการจามนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่หากจามบ่อย ๆ จนน่าสงสัย เหล่าทาสก็ควรรีบหาคำตอบโดยเร็ว ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้น้องแมวมีอาการจามบ่อย ๆ นั้น มักมาจาก 2 สาเหตุคือ การเป็นไข้หวัด และ การแพ้ฝุ่น (ซึ่งอาจมาจากทรายแมวที่ใช้อยู่) นั่นเอง แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอาการจามของน้องแมวที่เห็นอยู่มาจากสาเหตุใดกันแน่ ในบทความนี้ Petology รวบรวมข้อมูลสำหรับการสังเกตอาการของน้องแมวมาฝากกัน แมวจามบ่อย เกิดจากอะไร เป็นหวัด VS แพ้ฝุ่นทรายแมว อาการเหมือนกันหรือไม่? อาการจามในคนมักเกิดจากหลากหลายสาเหตุ อาจจะเป็นได้ทั้งอาการเบื้องต้นของการเป็นหวัด หรือในบางครั้งอาจแค่ได้รับการระคายเคืองบางอย่างทำให้จามออกมา ซึ่งในน้องแมวเองก็มีสาเหตุการจามได้ไม่ต่างจากมนุษย์เรา แต่ว่าสัตว์เลี้ยงไม่สามารถบอกอาการของตัวเองได้ว่าจามเพราะอะไร เช่นนั้นแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแมวจามเกิดจากสาเหตุอะไร และการจามนี้ควรเป็นเรื่องที่ต้องกังวลหรือไม่ มาดูพร้อม ๆ กัน แมวจามบ่อยเกิดจากอะไร? เมื่อแมวมีอาการจามฟุดฟิดหรือแมวจามบ่อย อาจมีสาเหตุมาจากไข้หวัดแมวหรืออย่างอื่นก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือมีอะไรเข้าไปในจมูกจนทำให้เกิดอาการระคายเคืองก็ตาม หากแมวจามบ่อย จามเป็นช่วง ๆ แต่ไม่ได้มีอาการอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา ก็อาจเป็นไปได้ว่าแมวระคายเคืองจมูก หรือแพ้บางสิ่งบางอย่างอยู่ในขณะนั้น

แมวอ้วน ดู ยัง ไง ? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่เหล่าทาสต่างสงสัยไปตาม ๆ เพราะเจ้าเหมียวนั้นมักจะมีรูปร่างที่กลมและปุ๊กลุ๊กกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้น การจะดูว่าแมวตัวไหนผอมหรือแมวตัวไหนอ้วน เราจะมีวิธีดูได้อย่างไร ซึ่งนอกจากนี้ อีกสิ่งที่ทาสต้องระมัดระวังหลังจากที่รู้วิธีดูว่าน้องแมวตัวไหนอ้วนแล้วก็คือ โรคต่าง ๆ ที่มากับความอ้วนของน้องแมวด้วย ซึ่งจะมีโรคไหนที่ควรระวังบ้าง วันนี้ Petology นำข้อมูลมาฝากแล้ว มาดูไปพร้อม ๆ กัน แมวอ้วน ดู ยัง ไง หากน้ำหนักมากเกินไป ควรทำยังไงให้เจ้านายห่างไกลโรค? แม้การเลี้ยงแมวให้อ้วนตุ้ยนุ้ย ซึ่งทาสแมวหลายคนก็เลือกที่จะทำตาม เพราะแมวอ้วนดูน่ารักน่ากอดมากจริง ๆ แต่ความน่ารักนี้ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเค้า และยังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่ร้ายแรงอีกมากมายด้วย แมวอ้วนเกิดจากสาเหตุอะไร? แมวอ้วน หรือ โรคแมวอ้วน เป็นภาวะที่น้องแมวมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้เกิดเป็นไขมันสะสมตามร่างกายในปริมาณมากกว่ากล้ามเนื้อ ซึ่งภาวะนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ๆ ทั้งที่เกิดจากตัวเจ้าของเอง เกิดจากตัวน้องแมว และภาวะบางอย่าง ดังนี้… อายุ, เพศ และลักษณะนิสัยส่วนตัว โดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยที่ทำให้แมวอ้วน หรือภาวะมีน้ำหนักเกิน มาจากเรื่องของอายุ ซึ่งน้องแมวที่มีอายุมากขึ้น

แมวไม่กินอาหารเม็ด เกิดจากอะไร? เชื่อได้ว่าเป็นปัญหาในน้องแมวที่เกิดขึ้นได้บ่อยและทาสหลายคนก็พยายามหาแนวทางการรับมือกันอย่างหนัก เพราะแม้จะดูเป็นปัญหาแค่แมวเบื่ออาหาร แต่แท้จริงแล้วสามารถส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้เช่นกัน ดังนั้น ปัญหานี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามและควรเร่งแก้ไขให้ไวที่สุด แมวไม่กินอาหารเม็ด เกิดจากอะไร แก้ไขยังไงให้เจ้าเหมียวกลับมากินอาหารเม็ดดังเดิม แมวไม่กินอาหารเม็ดถือว่าเป็นปัญหาโลกแตกของคนเลี้ยงแมวเลยทีเดียว จริงๆ แล้วเรื่องนี้สาเหตุอาจเกิดได้จากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ อาหารที่ให้ ความสะอาด หรือแม้แต่ตัวนิสัยของแมวเอง โดยผลเสียของการที่แมวไม่กินอาหารเม็ดคือจะทำให้เขาได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่เพียงพอจนอาจทำให้ป่วยตามมา รวมไปถึงยังสร้างนิสัยเลือกกินขึ้นได้ในอนาคต ในคราวนี้เราเลยขอพาทุกท่านมาวิเคราะห์รวมไปถึงเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างได้ผลกัน ว่าทำต้องทำอย่างไรถึงเอาชนะใจน้องเหมียวให้กลับมาทานอาหารเม็ดได้ ทำความเข้าใจสาเหตุ “น้องแมวไม่ยอมกินอาหารเม็ด” เป็นเพราะอะไรได้บ้าง? โดยทั่วไปแล้ว การไม่กินอาหารสามารถแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ การกินอาหารได้น้อยลง จะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเริ่มจากกินได้น้อยลงจนภายหลังไม่กินเลย กับการไม่กินอาหารเลยที่เกิดได้ฉับพลัน ซึ่งสาเหตุที่แมวไม่ยอมกินนั้นสามารถเกิดจากปัจจัยหลายข้อดังนี้ การเก็บอาหารแมว กรณีนี้จะแตกต่างจากข้อข้างบน เพราะถ้าไม่ได้ปรับ-เปลี่ยนอาหารใหม่ ยังเป็นอาหารเดิมอยู่ อาจเกิดขึ้นจากการเก็บอาหารแบบเม็ดไม่ดีพอ จนเกิดความชื้นขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กลิ่นอาหารที่เคยหอมจางลงไปได้ ดังนั้นควรเก็บอาหารไว้ในถุงซิปล็อค หรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด สำหรับอาหารเปียก หากเปิดแล้วควรให้น้องกินให้หมดในครั้งเดียว หากกินไม่หมด แนะนำให้เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดและนำไปใส่ในตู้เย็นเพื่อป้องกันอาหารเสีย นอกจากนี้ เมื่อจะนำมาให้แมวกินควรนำอาหารเปียกในตู้เย็นมาอุ่นร้อนก่อน เพื่อให้กลิ่นอาหารกลับมาอีกครั้ง การเลือกจานที่ใช้และจานไม่สะอาด การเลือกจานชามเพื่อใส่อาหารสำคัญต่อการกินของแมวอย่างมาก เพราะถ้าจานมีความแคบ ขอบลึก จะทำให้แมวก้มลงไปกินได้อยาก

ทํา ยัง ไงให้แมวเข้ากันได้ เร็ว ? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่ทาสหลาย ๆ คนต้องการคำตอบเพราะเป็นครั้งแรกที่จะนำน้องแมวตัวที่สองเข้าบ้านและไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีให้แมวเก่าและแมวใหม่ซี้กันได้ไวที่สุด ซึ่งต้องบอกก่อนว่าหากรับแมวใหม่มาเลี้ยงเพิ่มแต่ไม่รู้วิธีทำให้เข้ากับแมวเก่าได้ มีเหตุการณ์วุ่นวายตามมาแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดความเครียด แมวเก่าขู่แมวใหม่ ตีกันเล่นกันจนเกิดแผล และอาจเกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ได้ไม่ต่างจากคนเลย เพราะฉะนั้นก่อนแมวใหม่เข้าบ้านควรเตรียมตัวให้ดี และค่อย ๆ ทำให้แมวเก่าแมวใหม่ทำความรู้จักกันทีละขั้นตอน ซึ่งในบทความนี้ Petology นำข้อมูลมาฝากแล้ว ทํา ยัง ไงให้แมวเข้ากันได้ เร็ว แชร์เทคนิคพิชิตปัญหา โดยส่วนใหญ่คนเลี้ยงแมวเมื่อได้เริ่มเลี้ยงแมวตัวแรกแล้ว ก็มักจะมีตัวที่ 2-3 ตามมา อาจเป็นเพราะชอบในความน่ารักของน้องแมว หรืออยากให้แมวตัวแรกได้มีเพื่อนเล่น แต่เมื่อรับแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้านแล้วปัญหาที่คนเลี้ยงแมวมากกว่า 1 ตัวต้องเจอก็คือ การที่แมวตัวเก่าไม่ยอมรับแมวตัวใหม่ ทำให้เกิดการขู่กันหรือไล่กัดกัน เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณหวงอาณาเขตมาก ถ้ามีแมวตัวอื่นรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของตัวเอง ก็จะยิ่งแสดงความเป็นเจ้าถิ่นมากขึ้นโดยการขับไล่ผู้บุกรุกออกไปแต่ถึงแม้ว่าแมวจะไม่ชอบให้แมวตัวอื่นเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง ดงันั้น เพื่อให้ปัญหานี้หมดไป Petology จึงนำแนวทางที่จะช่วยให้เหมียวเก่าและเหมียวใหม่กลายมาเป็นเพื่อนซี้มาฝาก ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาดูกัน..   5 เทคนิคพิชิตปัญหาแมวงอก อยากเป็นกาวใจให้แมวใหม่และแมวเก่า ทำตามนี้ ได้ผลแน่นอน!! หากรับแมวใหม่มาเลี้ยงเพิ่มแต่ไม่รู้วิธีทำให้เข้ากับแมวเก่าได้ มีเหตุการณ์วุ่นวายตามมาแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดความเครียด

พาแมวตัวใหม่เข้าบ้าน แมวเก่าต้องเครียดแน่ ๆ  เป็นปัญหาที่หลาย ๆ บ้านกำลังเผชิญ เนื่องจากมีการรับสมัครชิกใหม่เข้าบ้าน แต่สมาชิกเก่าเจ้ากรรมก็ดันไม่ยอมรับ จึงเป็นเรื่องที่เหล่าทาสต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นที่ทรายกันดีว่าทาสแมวหลายคนมักมีนิสัย “แมวงอก” เพราะหลงใหลในความน่ารักน่าชังของบรรดาน้องแมว เมื่อเลี้ยงไป 1 ตัวสักพักพวกมันจะงอกออกมาอีก 1 ตัว และมีโอกาสที่จะเรื้อรังงอกออกมาเรื่อยๆ แต่ปัญหาสำหรับคนเลี้ยงแมวที่พาแมวใหม่เข้าบ้านแต่แมวเก่าดันงอนหรือไม่ยอมรับน้องแมวตัวใหม่ซะงั้น ดังนั้น เพื่อให้เหล่าทาสได้ลองศึกษาและนำไปปรับใช้ Petology จึงนำทริคกาวใจมาฝากกัน พาแมวตัวใหม่เข้าบ้าน กลัวแมวเก่าเครียด แก้ยังไงดี ให้น้องแมวไม่ตีกัน? หนึ่งในความกังวลที่ทำให้ทาสแมวปวดหัวและปวดใจก็คือการที่เจ้านายตัวเก่าที่บ้านมักจะขู่เมื่อพบกับแมวตัวอื่นอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าทาสแมวกำลังจะรับแมวใหม่เข้าบ้าน ยิ่งต้องคิดหนักเลยทีเดียวว่าจะเอาแมวใหม่เข้าบ้านมาอย่างไรให้เจ้านายตัวเก่าไม่เกิดอาการขู่จนขนพอง วันนี้ Petology จึงจะมานำเสนอเทคนิคพิชิตปัญหาแมวงอก ไม่ว่าจะแมวตัวใหม่หรือแมวตัวเก่าก็แฮปปี้ มาฝากเหล่าทาสให้ได้ศึกษา ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน 5 เทคนิคพิชิตปัญหาแมวงอก อยากเป็นกาวใจให้แมวใหม่และแมวเก่า ทำตามนี้ ได้ผลแน่นอน!! หากรับแมวใหม่มาเลี้ยงเพิ่มแต่ไม่รู้วิธีทำให้เข้ากับแมวเก่าได้ มีเหตุการณ์วุ่นวายตามมาแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดความเครียด แมวเก่าขู่แมวใหม่ ตีกันเล่นกันจนเกิดแผล และอาจเกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ได้ไม่ต่างจากคนเลย เพราะฉะนั้นก่อนแมวใหม่เข้าบ้านควรเตรียมตัวให้ดี และค่อยๆ ทำให้แมวเก่าแมวใหม่ทำความรู้จักกันตามขั้นตอนดังนี้ 1. แยกพื้นที่ให้ปรับตัว

เลี้ยงแมวระบบปิด ต้องมีอะไรบ้าง ? เป็นคำถามที่ทาสแมวหลาย ๆ คนต้องทำการบ้านกันอย่างหนักทีเดียว ซึ่งเราต่างทราบกันดีว่าการเลี้ยงแมวระบบปิดนั้นเป็นการเลี้ยงแบบจำกัดพื้นที่น้องแมวให้อยู่แต่ในบ้านหรือในห้องที่เราเตรียมไว้เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางร่างกายและสุขภาพของน้องแมวให้ได้มากที่สุด ซึ่งแม้จะเป็นการเลี้ยงแบบปิดที่ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แต่ต้องบอกก่อนว่า ที่จริงแล้วมีไอเทมมากมายสำหรับน้องแมวที่เหล่าเจ้าของต้องเตรียมไว้เพื่อคลายความเครียดให้กับน้องแมว ซึ่งจะมีอะไรบ้าง Petology ได้รวบรวมมาฝากแล้ว มาดูไปพร้อม ๆ กัน เลี้ยงแมวระบบปิด ต้องมีอะไรบ้าง ทาสอุ่นใจ เจ้านายห่างไกลความเครียด ทาสแมวส่วนใหญ่คงรู้กันดีว่าเจ้าเหมียวอ่อนไหวง่าย มีหลากหลายอารมณ์ และค่อนข้างไวต่อความความรู้สึก พวกเค้ารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ดี แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจะทำให้น้องแมวเครียดและรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ด้วย ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมาเกิดขึ้น การเลี้ยงให้น้องแมวอยู่ห่างไกลจากความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ทำความรู้จัก “เลี้ยงแมวระบบปิด” คืออะไร ? การ เลี้ยงแมวระบบปิด คือ การเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน ไม่ปล่อยให้ออกไปเล่นนอกบ้าน ทำทุกกิจกรรมอยู่ภายในบ้านเท่านั้น องค์กรสัตวแพทย์ The American Veterinary Medical

เลี้ยงแมวระบบปิด ไม่ให้เครียด ทำยังไง? แม้จะเป็นหนึ่งช่องทางในการเลี้ยงน้องแมวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเพราะมีความปลอดภัยทั้งทางร่างกายและสุขภาพของน้องแมว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสามารถสร้างความเครียดให้น้องแมวของเราอยู่ไม่น้อย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้บรรดาน้องแมวเครียดนั้นมีอยู่หลายประการด้วยกัน แต่วิธีการช่วยบรรเทาให้แมวให้เครียดก็มีไม่ใช่น้อย ซึ่งจะมีข้อมูลอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน เลี้ยงแมวระบบปิด ไม่ให้เครียด มีวิธียังไง มาป้องกันภาวะเครียดในน้องแมวกันดีกว่า! ทาสแมวส่วนใหญ่คงรู้กันดีว่าเจ้าเหมียวอ่อนไหวง่าย มีหลากหลายอารมณ์ และค่อนข้างไวต่อความความรู้สึก พวกเค้ารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ดี แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจะทำให้น้องแมวเครียดและรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ด้วย ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมาเกิดขึ้น การเลี้ยงให้น้องแมวอยู่ห่างไกลจากความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ทำความรู้จัก “เลี้ยงแมวระบบปิด” คืออะไร ? การ เลี้ยงแมวระบบปิด คือ การเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน ไม่ปล่อยให้ออกไปเล่นนอกบ้าน ทำทุกกิจกรรมอยู่ภายในบ้านเท่านั้น องค์กรสัตวแพทย์ The American Veterinary Medical Association (AVMA) ได้ให้คำแนะนำว่า ควรเลี้ยงแมวแบบระบบปิด เพราะจะช่วยลดการเกิดอันตรายจากนอกบ้าน เพราะอยู่ในบ้านจะมีโอกาสได้รับอันตราย

วิธีดูแลแมวเปอร์เซีย มีอะไรบ้าง? เรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์น้องแมวในฝันของเหล่าทาสแมวหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารัก นิสัยขี้อ้อน และความนุ่นฟูของขน จึงทำให้หลายคนอดใจในความน่ารักของเจ้าแมวสายพันธุ์นี้ไม่ไหว ยังไงก็ตาม แมวพันธุ์นี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรเรียนรู้ที่จะดูแลอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะเรื่องขน ซึ่งจะมีวิธีในการดูแลยังไงบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กัน วิธีดูแลแมวเปอร์เซีย ที่เจ้าของต้องรู้ ดูแลยังไงให้ขนสวยและสุขภาพดี? แมวเปอร์เซีย พันธุ์แมวสุดน่ารักที่ครองใจคนไทยมานานแสนนานและมีหลายคนนิยมเลี้ยง ด้วยใบหน้าที่คล้ายคลึงกับตุ๊กตา ขนที่หนาฟูชวนลูบ ลักษณะนิสัยที่ออดอ้อน จนทำให้หลายคนอยากจะเลี้ยง ซึ่งการดูแลน้องแมวสายพันธุ์นี้มีเรื่องหลายเรื่องที่เหล่าเจ้าของต้องเตรียมตัวให้ดี เพื่อที่จะให้ดูแลได้อย่างครบครันที่สุด โดยเฉพาะเรื่องขนของน้องแมวสายพันธุ์นี้ที่ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด ซึ่งต้องดูแลอย่างไรบ้าง Petology รวบรวมทริคมาฝากกัน ว่าด้วยเรื่อง “ขนแมวเปอร์เซีย” ขนที่หนาฟูของแมวเปอร์เซียช่วยปกคลุมตัวจากอากาศหนาว สร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย โดยปกติขนแมวเปอร์เซียจะมีความหนาฟู เงางาม แต่ถ้าขาดความใส่ใจจะเกิดการพันกันเป็นกระจุกและกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องหมั่นแปรงขนสม่ำเสมอทุกวัน ซึ่งจุดที่ควรจะต้องใส่ใจคือบริเวณที่แมวไม่สามารถเอี้ยวตัวไปเลียได้ เพราะการแปรงขนจะช่วยทำให้ขนที่หลุดร่วงออกมาช่วยลดโอกาสก้อนขนอุดตันและการแปรงขนยังช่วยกระตุ้นการทำงานของผิวหนังและช่วยให้ขนสวยสุขภาพดี พร้อมยังช่วยเช็กสภาพผิวหนังและขนได้อีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยขนที่หนาฟู ควรเลี้ยงระบบปิดเป็นหลัก เพราะถ้าแมวเปอร์เซียออกไปผจญภัยด้านนอก ขนอาจไปกวาดสิ่งสกปรกต่างๆ ได้ เมื่อเลียก็เพิ่มโอกาสที่จะป่วยได้ง่าย ดังนั้นเมื่อนำน้องแมวออกไปด้านนอกจำเป็นต้องเช็ดทำความสะอาดเสมอ วิธีดูแลน้องแมวพันธุ์เปอร์เซีย และแมวขนยาวพันธุ์อื่น ๆ