“ขนแมวร่วงเป็นหย่อมๆ” ปัญหาจากผิวหนังน้องแมวที่ไม่ควรมองข้าม

“ขนแมวร่วงเป็นหย่อมๆ” แน่นอนว่าสำหรับทาสแมวแล้ว ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอ เนื่องจากขนของน้องแมวนั้นมักจะร่วงติดอยู่ตามที่ต่าง ๆ ไม่เว้นแต่ที่ตัวทาสเองก็ตาม แต่ต้องบอกก่อนว่าสาเหตุของการขนร่วงของน้องแมวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้หลายอย่าง ซึ่งมีทั้งแบบปกติและแบบภาวะเสี่ยงที่เกิดจากปัญหาผิวหนังด้วย โดยหากเป็นสาเหตุแบบหลัง การปล่อยหรือละเลยไปเรื่อย ๆ อาจไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ

“ขนแมวร่วงเป็นหย่อมๆ” สัญญาณปัญหาทางผิวหนังที่ต้องแก้อย่างเร่งด่วน

จากที่บอกไปว่า หนึ่งในปัญหายอดฮิตที่มาคู่กับสัตว์เลี้ยงมีขนอย่างน้องแมวคงหนีไม่พ้นกับปัญหา “แมวขนร่วง” เนื่องจากแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องผลัดขนตามฤดูกาล แต่สำหรับบางครั้งเจ้าของเห็นปริมาณที่แทบจะปั้นเป็นแมวได้อีกตัวก็กังวลว่า นี่เป็นการผลัดขนปกติ หรือเจ้านายมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังกันแน่ ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจสาเหตุได้อย่างถูกต้อง เรามาดูกันดีกว่าว่าสาเหตุของปัญหาขนร่วงเกิดจากอะไรได้บ้าง

แมวขนร่วง เกิดจาก…

ภาวะขนร่วงของน้องแมวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุด้วยกัน เช่น…

ปัญหาสุขภาพ และ การขาดสารอาหาร

เมื่อแมวได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ก็อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะขนร่วงได้

ภาวะเครียด และ การเจ็บปวด

การย้ายที่อยู่ ก็อาจส่งผลให้แมวขนร่วงได้ เนื่องจากแมวเกิดภาวะเครียดจนส่งผลให้ภูมิคุ้มกันตก หรือในอีกกรณี คือ เกิดการเจ็บปวดที่ร่างกาย แมวมักจะเลียขนบริเวณนั้น

ป่วยเป็นโรคทางผิวหนัง

อาการขนร่วงในแมวหรือ “โรคขนร่วง” (Alopecia) เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อย่างเช่น การติดเชื้อทางผิวหนัง, กลาก (การติดเชื้อรา), การรบกวนของปรสิต เช่น ไรขี้เรื้อน หมัด หรือโรคผิวหนังชนิดอื่น ๆ ที่เกิดจากภูมิแพ้ เป็นต้น

จากสาเหตุทั้งหมด ทุกคนคงเห็นแล้วว่าอาการขนร่วงเป็นหย่อมของน้องแมว ไม่ได้มาจากการผลัดขนทั่วไปเสมอไป ดังนั้น เจ้าของควรสังเกตให้ดีเพื่อที่จะได้รักษาอย่างถูกวิธีและถูกจุดมากที่สุด

ทำความรู้จัก “เชื้อราบนผิวหนัง” ฝันร้ายของเหล่าน้องเหมียวที่เหล่าเจ้าของควรใส่ใจ!!

อีกหนึ่งสิ่งของปัญหาน้องแมวขนร่วงที่ทาสต้องคอยสังเกต ก็คือ หากสังเกตเห็นว่าแมวของคุณขนร่วงเป็นหย่อม หรือเป็นวงกลม พร้อมกับมีปื้นแดงบนผิวหนัง อาจเป็นอาการของโรคทางผิวหนัง อย่างเช่น โรคกลาก หรือโรคเชื้อราแมว เป็นต้น

ซึ่งเชื้อราในแมวนั้น มีหลายชนิดด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่ที่พบจะเกิดจาก Microsporum Canis ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการ โดยเชื้อราประเภทนี้มักจะเกิดจากความชื้นสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของน้องแมว และแน่นอนว่าแมวขนยาวจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้มากกว่าแมวขนสั้น เพราะสามารถเกิดการสะสมความชื้นได้มากกว่านั่นเอง โดยลักษณะอาการของโรคนี้มักจะสังเกตได้ไม่ยาก สังเกตจากบริเวณผิวหนังที่มีการติดเชื้อจะเป็นผิวหนังที่มีลักษณะแห้ง แดง และอาจจะมีอาการผิวหนังลอก รวมถึงอาการแมวขนร่วงเป็นหย่อมอีกด้วย

รักษาเชื้อราแมวด้วยวิธีใดได้บ้าง?

โดยปกติแล้วการรักษาอาการเชื้อราดังกล่าวในแมวนั้นสามารถทำได้ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อ ใช้แชมพูฆ่าเชื้อแบบเฉพาะ และอาจจะให้กินยาร่วมด้วยจนกว่าจะอาการดีขึ้น ซึ่งมีข้อปฏิบัติดังนี้

• ให้ยากับน้องแมวกินตามที่สัตวแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
• หากแมวมีอาการเบื่ออาหาร ซึม ควรหยุดยากินและพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
• พาน้องแมวไปรับการตรวจร่างกายตามที่สัตวแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ สำหรับการรักษาเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันการเกิดปัญหาผิวหนัง โดยเฉพาะน้องแมวขนยาวที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ

ป้องกันการเกิดเชื้อราด้วย “เครื่องเป่าขน” ขจัดความชื้นอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในสัตว์เลี้ยง

น้องแมว กับน้ำ เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนาน เพราะกว่าจะจับอาบน้ำได้แต่ละที ต้องงัดทุกกลเม็ดเทคนิคให้น้องแมวยอมโดนน้ำ หลังจากนั้นยังต้องมาจับเป่าขนอีก พูดเท่านี้เชื่อว่าทาสแมวหลายคนคงเข้าใจสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำเป่าขนที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น อาจส่งผลให้แมวเป็นเชื้อรา และโรคผิวหนังได้

ดังนั้น การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากภาวะเชื้อราของน้องแมวสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำหรือเป่าขนไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดโรคเชื้อราในแมวได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรมีเครื่องเป่าขนสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากพอทั้งในส่วนของการเป่าขนให้แห้งและกำจัดแบคทีเรียให้หมดไปเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราให้ดีมากขึ้น

ติดตามรายละเอียดเครื่องเป่าขน จาก Petology เพิ่มเติมที่…

PEPE DR-300 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง

PEPE DR-100 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรลืมคือต้องเลือก เป่าขนด้วยเครื่องเป่าลมที่มีกำลังสูง แต่มีเสียงที่เบา จึงทำให้น้องแมวไม่ตกใจง่าย พร้อมกันนี้ยังสามารถเป่าขนได้แห้งทั้งขนชั้นนอก และขนชั้นในสำหรับน้องแมวที่มีขนหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด