แมวออกกําลังกาย ช่วยลดน้ำหนักได้ไหม? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่ทาสหลาย ๆ คนกำลังหาคำตอบกันอยู่อย่างแน่นอน นั่นเป็นเพราะเจ้านายหลาย ๆ บ้านนั้นกำลังประสบปัญหาโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกินอยู่นั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การออกกำลังกายจะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เหล่าทาสมีไอเดียในการช่วยน้องแมวออกกำลังกาย ในบทความนี้ Petology จึงนำไอเดียมาฝากทุก ๆ คน ซึ่งจะมีอะไรบ้างตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน
แมวออกกําลังกาย รักษาสุขภาพแมวให้ดีอยู่เสมอด้วยการออกกำลังและการเล่น
แม้การเลี้ยงแมวให้อ้วนตุ้ยนุ้ย ซึ่งทาสแมวหลายคนก็เลือกที่จะทำตาม เพราะแมวอ้วนดูน่ารักน่ากอดมากจริง ๆ แต่ความน่ารักนี้ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเค้า และยังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่ร้ายแรงอีกมากมายด้วย ดังนั้น การกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อสุขภาพของน้อง ๆ ที่แข็งแรงและเป็นการป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจมาพร้อมความอ้วนด้วยค่ะ
มาดูกันก่อน!! แมวอ้วน เกิดจากสาเหตุอะไร?
แมวอ้วน หรือ โรคแมวอ้วน เป็นภาวะที่น้องแมวมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ปกติ ทำให้เกิดเป็นไขมันสะสมตามร่างกายในปริมาณมากกว่ากล้ามเนื้อ ซึ่งภาวะนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุมาก ๆ ทั้งที่เกิดจากตัวเจ้าของเอง เกิดจากตัวน้องแมว และภาวะบางอย่าง ดังนี้…
อายุ, เพศ และลักษณะนิสัยส่วนตัว
โดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยที่ทำให้แมวอ้วน หรือภาวะมีน้ำหนักเกิน มาจากเรื่องของอายุ ซึ่งน้องแมวที่มีอายุมากขึ้น เนื่องจากอัตราการเผาผลาญพลังงานลดลง ความกระตือรือร้นที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ลดลงเช่นกัน
ทำหมัน
หลังการทำหมันแล้ว น้องแมวอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคแมวอ้วนได้ง่ายมาก นั่นก็เพราะการทำหมันส่งผลให้ฮอร์โมนเพศลดลง รวมถึงมีการเผาผลาญพลังงานที่น้อยลง และหลังทำหมัน น้อง ๆ อาจมีอาการซึม เฉื่อยชา ส่งผลให้ไม่ค่อยลุกเดินหรือวิ่งเล่นเหมือนแต่ก่อนอีกด้วย
อาหารการกิน
ปัจจัยต่อมาที่ทำให้น้องแมวเสี่ยงเป็นโรคแมวอ้วน คือ เรื่องอาหาร ซึ่งแน่นอนว่า การให้อาหารน้อง ๆ ในปริมาณมากเกินไปในแต่ละมื้อและแต่ละวัน ย่อมทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานไม่หมด จนเหลือเก็บสะสมในรูปแบบของไขมันส่วนเกิน และในบางครั้งการให้ขนมหลังมื้ออาหารหรือในระหว่างวันมากเกินไป ก็ส่งผลให้แมวอ้วนได้เช่นกัน
ซึ่งนี่เป็นเพียงสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดภาวะอ้วนเท่านั้น ซึ่งเจ้าของต้องระมัดระวังในส่วนของการให้อาหารและโภชนาการของเหล่าน้องแมวประกอบด้วย
ภาวะโรคอันตรายในน้องแมวที่มาจาก “ความอ้วน”
ทาสทราบหรือไม่ว่า ภาวะอ้วนในน้องแมวนั้นสามารถนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอีกหลาย ๆ อย่าง เช่น…
- เบาหวาน
- ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ตับวาย
- โรคหัวใจ
- โรคระบบทางเดินหายใจ
- ภาวะคลอดยาก
โดยถ้าหากไม่เริ่มทำการปรับพฤติกรรมในการให้อาหาร หรือกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายจนมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานต่อไปเรื่อย ๆ โรคร้ายต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้อาจเป็นผลกระทบต่อสุขภาพของน้องแมวที่ตามมาได้
3 แนวทางลดน้ำหนักน้องแมว ขจัดต้นตอของโรคร้าย ช่วยเจ้านายใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น
โดยหลัก ๆ แล้ว เหล่าทาสสามารถเริ่มต้นวิธีการลดน้ำหนักให้น้องแมวได้ง่าย ๆ ด้วย 3 วธีนี้ คือ…
1.ปรับโภชนาการและให้อาหารเป็นเวลา
การให้อาหารแบบอิสระคือการเทอาหารเม็ดทิ้งไว้ในปริมาณมาก เพื่อให้น้องแมวกินอาหารได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แต่เพราะนิสัยกินได้ไม่หยุด อาจทำให้พวกเค้ากินอาหารมากเกินไปจนกลายเป็นแมวอ้วนได้ง่าย เพื่อควบคุมน้ำหนักและรักษารูปร่างให้เหมาะสม ควรกำหนดตารางการให้อาหารในแต่ละวันหรือเปลี่ยนมาใช้เครื่องให้อาหารอัตโนมัติที่กำหนดเวลาได้แทน
2.รักษาน้ำหนักแมวให้คงที่
เมื่อลดน้ำหนักแมวให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจแล้ว สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ การรักษาน้ำหนักแมวให้คงที่ โดยหมั่นเช็กน้ำหนักตัวเป็นประจำทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อเป็นการจัดการควบคุมดูแลอย่างถูกต้อง ป้องกันไม่ให้น้องกลับมาอ้วนได้อีก
3.ออกกำลังกายเป็นประจำ
หากเจ้าตัวน้อยของคุณเป็นโรคอ้วน การออกกำลังกายเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุด จะให้พวกเค้าวิ่ง ปีนป่าย หรือกระโดดก็ได้ทั้งนั้น การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินและทำให้แมวกลับมามีรูปร่างที่ดีได้ สำหรับแมวบ้านที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย การติดวงล้อออกกำลังกายก็เป็นทางเลือกที่ดี หรือจะชวนพวกเค้าเล่นเกมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ ด้วยก็ได้
ซึ่งนี่เป็นเพียง 3 วิธีเบื้องต้นเท่านั้น นอกจากนี้น้องแมวบางตัวอาจจะต้องใช้ยาเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักด้วย ซึ่งบรรดาอาจพาเจ้านายเข้าพบคุณหมอและเข้ารับคำแนะนำต่อไปเพื่อหาวิธีที่เหมาะกับเจ้านายแต่ละตัวมากที่สุด
ทำไม แมวต้องออกกำลังกาย?
รู้หรือไม่ว่าการมีร่างกายที่แข็งแรงและกระฉับกระเฉงจะช่วยลดโอกาสที่แมวจะเป็นโรคต่างๆ ได้ เช่น เบาหวาน โรคอ้วน และโรคข้ออักเสบ ด้วยเหตุนี้การออกกำลังกายจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย และช่วยป้องกันความเบื่อหน่ายและช่วยให้แมวแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ดีอีกด้วย
แมวต้องการออกกำลังกายมากแค่ไหน?
แมวทุกตัวน้ันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งหมายความว่าความต้องการในการออกกำลังกายของน้อง ๆ อาจแตกต่างกันไป โดยปกติจะขึ้นอยู่กับอายุหรือสุขภาพ ตัวอย่างเช่น สัตว์เลี้ยงที่อายุมากหรือมีปัญหาสุขภาพอาจไม่แนะนำให้ออกกำลังกายในแต่ละวัน
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าแมวควรใช้เวลาเฉลี่ย 30 นาทีในการออกกำลังกายที่ระดับปานกลางในแต่ละวัน และแน่นอนว่าเราไม่สามารถที่จะบังคับเจ้านายทำในสิ่งที่ ไม่ต้องการได้ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว น้อนแมวมีแนวโน้มจะออกกำลังกายน้อยกว่าน้องหมา ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่แมวอาจต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษเพื่อให้สร้างแรงจูงใจให้เจ้าเหมียวอยากออกกำลังกายมากขึ้นนั่นเอง
วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าน้อนแมวของเราออกกำลังกายเพียงพอ คือใช้เวลาเล็กน้อยเล่นกับบรรดาเจ้านายในแต่ละวัน โดยเหล่าคุณพ่อแม่แมว อาจจะต้องสังเกตสักนิดว่า น้อนๆ ชอบเล่นอะไรเป็นพิเศษ เราก็ชวนเค้าเล่นด้วยของเล่นอันนั้น ไม่ว่าจะเป็นไม้ตกแมว ลูกบอลกลิ้งมีขนนก เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะได้ทั้งสุขภาพกายแข็งแรงแล้ว ยังเพิ่มความผูกพันและเป็นการส่งต่อความรู้สึกรักที่เรามีให้น้องแมวได้รับรู้อีกด้วย
แนะนำของเล่นแมวจาก Petology สนุก ปลอดภัย กระตุ้นให้เจ้านายออกกำลังกาย
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลือกของ เล่นมาให้น้องแมว นั่นก็คือการหมั่น สังเกตเค้าให้มากๆ เพื่อตีโจทย์ให้ออกว่าของเล่นแบบไหนที่น้องแมวของเราให้ความสนใจมากที่สุด โดยเราอาจจะลองมองหาของเล่นมาซักชิ้น แล้วนำไปหลอกล่อเพื่อดูปฏิกิริยาของน้องแมว ว่าเป็นแบบไหน เวลาเห็นของเล่นกลิ้งผ่านหน้าแล้ว ตอบสนองอย่างไรเพื่อจะได้เลือกประเภทของของเล่นแมวได้ถูกใจเหล่าเจ้านายมากที่สุด ซึ่งทาง Petology ก็มีมานำเสนอหลายแบบด้วยกัน เช่น…
1.ลู่วิ่งแมวอัจฉริยะ CAT WHEEL
- ลู่วิ่งตัวนี้ผลิตที่เกาหลีนำเข้าจากเกาหลีผ่านการคำนวณมาแล้วทุกอย่างเพื่อความปลอดภัย สามารถเก็บสถิติและระยะทางรวมไปถึงค่า BMI แมวผ่านแอพบนมือถือ (Bluetooth)
- เส้นผ่านศูนย์กลาง 120cm น้ำหนัก 19 กิโลกรัม
- รองรับน้ำหนักน้องแมวน้องหมาได้ 25 กิโลกรัม
- วัสดุเป็นพลาสติก ABS เกรดสูงสุดของเกาหลี
- รอบหมุนสูงสุด 72 RPM มีแรงต้านจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย เบรคง่ายไม่ต้องกลัวว่าวิ่งๆ แล้วแมวจะลอยไปกับล้อปลิวไปตามสายลม
- ลูกปืนในล้อใช้วัสดุดีสุดของบริษัท ZYZL รุ่น FAG Deep Groove 608 2ZR จาก Germany
- ไฟ LED เปลี่ยนสีกับปรับตำแหน่งได้ผ่านแอพบนมือถือเชื่อมต่อด้วย Bluetooth ไฟ LED กลางลู่วิ่งหุ้มด้วยซิลิโคนใสอีกชั้นเพื่อป้องกันสายตาน้องแมวน้องหมา
2.EBO AIR หุ่นยนต์บังคับเคลื่อนที่ผ่านมือถือ
• หุ่นยนต์บังคับผ่านมือถือ
• มาพร้อมกล้อง 1080P Full HD มี SD card 16GB ในตัว
• มีไมค์กะลำโพง 2-way communication พูดคุยกะแมวได้ real-time
• สั่งยิงเลเซอร์ได้จากหัวเพื่อล่อแมว
• ถ่ายรูปอัดวีดีโอได้ผ่านมือถือเวลาไม่อยู่บ้าน
• เวลาแบตเหลือน้อยหรือปิดแอปจะวิ่งกลับฐานเองเพื่อไปเติมพลัง
• Ebo ใจนักสู้โดนตบล้มก็ลุกขึ้นมาใหม่เองได้ไม่เคยยอมแพ้
• รองรับทั้ง iOS และ Android
3.EBO X FAMILY COMPANION ROBOT
- หุ่นยนต์บังคับเคลื่อนที่ผ่านมือถือ ช่วยดูแลคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน
- เลเซอร์นำทางสแกนตำแหน่งภายในบ้านด้วยระบบ V-SLAM ระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ บอกให้เดินตามตำแหน่งที่ต้องการภายในบ้านได้
- สามารถเชื่อมต่อกับ Alexa ได้ สั่ง Alexa เปิดเพลงแล้วเล่นผ่านลำโพง Harman บน Ebo X หรือจะให้เดินตามเราในขณะบรรเลงเพลงรอบบ้าน
- แตะที่ท้ายทอย Ebo X แล้วสั่งงานโดยไม่ต้องผ่าน Alexa Keyword ได้
- สามารถมาร์คจุดที่ไม่อยากให้มีใครเดินไปใกล้ได้อย่างเช่นเตาผิงไม่อยากให้เด็กเล็กเดินไปแถวนั้น ถ้ามีคนเดินเข้าไปจะมีแจ้งเตือนเด้งเข้ามาที่แอพในโทรศัพท์ทันที
- จดจำใบหน้าคนในครอบครัวได้ ตั้งให้เดินไปหาเพื่อบอกโน๊ตตามเวลาได้เช่น ให้เดินไปบอกคนในบ้านว่าถึงเวลากินยา
- Fall Alert มีเซนเซอร์ตรวจจับการหกล้ม ถ้าพบเจอจะโทรหาคนที่ตั้งค่าไว้ทันที เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงวัย
- Crying Alert ถ้าได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จะโทรหาเบอร์ที่ตั้งค่าไว้
- กล้องความชัด 4K พร้อมระบบกันสั่น
- Edge Detection ระบบกันตกจากที่สูง
- ใช้เล่นกับสัตว์เลี้ยงเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน
ติดตามสินค้าจาก Petology >> Hilight Products
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าน้องแมวก็มีจิตใจและความรู้สึกไม่ต่างไปจากมนุษย์ ดังนั้นการดูแลแมวและรับมือกับความเครียดของเค้าให้ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราในฐานะผู้เลี้ยงแมวต้องเรียนรู้ ดังนั้น นอกจากเคล็ดลับต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อาหารแมวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เค้ามีความสุขมากขึ้น โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ช่วยบรรเทาความเครียดให้กับแมวด้วย ตั้งแต่อาหารไปจนถึงเครื่องอำนวยความสะดวกไปจนถึงของเล่นต่าง ๆ ด้วย