แมวขนสาก ไม่นุ่มสลวย ดูสุขภาพไม่ดี ทาสควรดูแลยังไง?

“แมวขนสาก” ปัญหาที่ทาสหลาย ๆ บ้านกำลังเผชิญ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในน้องแมวพันธุ์ขนยาวที่อาจจะต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ โดยปัญหาสุขภาพขนของน้องแมวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยก่อนที่ทาสจะตัดสินใจ Take action ในการดูแลนั้น สิ่งจำเป็นสิ่งแรกคือต้องทราบก่อนว่าขนสากของน้องแมวเกิดจากอะไรกันแน่ เพื่อที่จะได้เลือกใช้วิธีการดูแลที่ถูกต้อง

แมวขนสาก เกิดจากอะไร อยากให้เจ้านายมีขนสวยน่ากอด ดูแลยังไงดี?

เป็นเรื่องที่หลายคนมักเข้าใจผิด ว่าขนของน้องแมวเหมือนกับเส้นผมของคนเรา ดังนั้นการดูแลขนแมวก็น่าจะคล้ายๆ กัน แค่หมั่นอาบน้ำและแปรงขนแมวก็น่าจะเพียงพอ แต่ความจริงแล้วมันไม่เป็นแบบนั้นเลย เพราะน้องแมวนั้นมีการแบ่งชั้นขนที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด แถมยังแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ด้วย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก ๆ ที่เหล่าทาสควรทำความเข้าใจในการดูแลขนน้อง ๆ ให้สุขภาพดีอยู่เสมอ

นอกจากนี้ ขนที่สุขภาพดีของน้องแมว สะท้อนให้เห็นถึงสุขภาพโดยรวมของแมวเช่นกัน ขนที่สุขภาพดีจะมีความเงางาม เรียบลื่น ไม่หยาบ ขาด ผิวหนังไม่เป็นสะเก็ดขุย การบำรุงขนแมวให้มีขนสวยสุขภาพดีจึงมีความสำคัญต่อน้องแมว เพราะการมีขนสุขภาพดีไม่ได้หมายความรวมถึงแค่ความสวยงาม แต่เป็นสุขภาพที่ดีของแมวโดยรวม ปัจจัยที่สำคัญที่จะช่วยให้แมวมีขนสวยสุขภาพดีก็คือการได้รับการดูแลอย่างถูกต้องในทุก ๆ ทาง ในบทความนี้ Petology จึงนำวิธีดูแลขนน้องแมวให้ดูสุขภาพดีและมีความเงางาม ลูบไปแล้วไม่สากมือมาฝากกัน

เปิด 4 สาเหตุที่ทำให้ขนของแมวสาก ไม่สวยเงางาม

หากแมวของคุณมีขนหยาบกระด้าง อย่าเพิ่งเร่งหาวิธีแก้ไข ให้ลองทำความเข้าใจต้นตอของปัญหากันก่อน โดยสาเหตุที่ทำให้ขนแมวสูญเสียความเงางาม มีดังนี้

1.โภชนาการที่ไม่ได้คุณภาพ

นอกเหนือจากการกรูมมิ่งเป็นประจำแล้ว โภชนาการก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการมีขนสวยเงางาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกอาหารแมวที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณที่เหมาะสม

2.อาบน้ำบ่อยเกินไป

ขนแมวอาจแห้งและหยาบกระด้างเมื่ออาบน้ำบ่อยเกินไป นั่นเป็นเพราะน้ำมันที่เคลือบอยู่บนผิวหนังถูกทำลายระหว่างการอาบน้ำ ซึ่งน้ำมันเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ขนของแมวเงางาม

3.อายุหรือช่วงวัย

เราไม่จำเป็นต้องกรูมมิ่งให้เจ้าเหมียวบ่อย เนื่องจากพวกเค้ามักจะดูแลทำความสะอาดตัวเองเป็นประจำ แต่เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นหรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ความยืดหยุ่นของร่างกายก็จะลดน้อยลง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการดูแลขนของแมว ในกรณีนี้ ผู้เลี้ยงอาจต้องให้ความช่วยเหลือและอาจต้องวางแผนการลดน้ำหนักอย่างเหมาะสมร่วมกับสัตวแพทย์เพิ่มเติม

4.ปัญหาด้านสุขภาพ

สาเหตุสุดท้ายที่อาจเป็นได้คือปัญหาสุขภาพ ขนแมวอาจสูญเสียความเงางามจากปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น โรคเบาหวาน ปรสิต การติดเชื้อ และอาการแพ้ หากคุณพบว่าน้องแมวมีอาการผิดปกติหรือแสดงสัญญาณของการเจ็บป่วย ให้ปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

ซึ่งทั้ง 4 สาเหตุนี้ก็เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่เหล่าทาสสามารถนำมาพิจารณาเพื่อหาทางแก้ไขให้กับเจ้านายได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อความแม่นยำของการทราบสาเหตุที่แท้จริง เหล่าทาสอาจเข้ารับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ก็ เพื่อให้การดูแลถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

แชร์ทริคดูแลขนเจ้านาย! ทำอย่างไรให้ขนแมวกลับมาสวยเงางามอีกครั้ง?

เมื่อรู้ถึงสาเหตุของปัญหากันแล้ว ก็ถึงเวลาแก้ไขเพื่อให้ขนแมวกลับมาเงางามได้อีกครั้ง โดยเคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูแลขนแมว มีดังนี้

เลือกโภชนาการที่เหมาะสม

เส้นขนของแมวมีโปรตีนมากถึง 90% การให้อาหารที่อุดมด้วยโปรตีนจึงมีความสำคัญต่อการดูแลขนให้เงางาม

แปรงขนเป็นประจำ

การแปรงขนจะช่วยกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไป รวมถึงกระตุ้นให้ผิวหนังขับน้ำมันและกระจายไปยังเส้นขน ทำให้ขนแมวของคุณเงางาม

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหวีขนน้องแมว >> วิธีหวีขนแมว ขนสวยนุ่มไม่พันกัน วิธีแปรงขนแมวให้ถูกวิธี

เลือกใช้แชมพูที่เหมาะสม

แชมพูถือเป็นสิ่งสำคัญ หากเลือกใช้แชมพูผิดชนิด อาจทำให้น้ำมันตามธรรมชาติบนผิวหนังของแมวถูกกำจัดออกไป ส่งผลให้เส้นขนเสียหายได้

หลีกเลี่ยงการอาบน้ำมากเกินไป

การอาบน้ำบ่อยอาจทำให้ผิวแห้งและลอกเป็นขุยได้

อย่างไรก็ตาม สรุปแล้ว การดูแลขนแมวให้แข็งแรงและเงางามขึ้นอยู่กับสองปัจจัย ได้แก่ สุขอนามัยและโภชนาการ โดยแนะนำให้กรูมมิ่งพวกเขาเป็นประจำหรือตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ โดยนอกจากการอาบน้ำด้วยขั้นตอนที่ถูกต้องก็ยังรวมถึงขั้นตอนการเป่าขนที่เหล่าทาสต้องเลือกไดร์หรือเครื่องเป่าที่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะช่วยถนอมขนของเจ้านายให้ดูสุขภาพดี สะอาด และไม่สากมือด้วย

ขนสาก ไม่นุ่มสลวย แก้ไขด้วย “เครื่องเป่าขน” จาก Petology แรงลมถนอมเส้นขน แห้งสนิท ไม่พันกัน ช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพขนและผิวหนังที่ดียิ่งขึ้น

การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ ซึ่งการอาบน้ำแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำหรือเป่าขนไม่ถูกวิธีสามารถส่งผลเสียต่อขนของน้องแมวได้เช่นกัน ดังนั้น นอกจากการจัดเวลาอาบน้ำอย่างถูกต้องแล้ว ในทุก ๆ ครั้งหลังอาบน้ำ เหล่าทาสจึงควรมีเครื่องเป่าขนสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากพอทั้งในส่วนของการเป่าขนให้แห้งและกำจัดแบคทีเรียให้หมดไปเพื่อป้องกันการเกิดโรคผิวหนังและขนของน้อง ๆ และช่วยรักษาให้สุขภาพขนให้ดีขึ้นตามไปด้วย

รีวิวเครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง PePe DR-Pro

นอกจากการแปรงขนแล้วมีวิธีไหนที่จะทำให้แมวขนสวย ไม่พันกันการอาบน้ำแมวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลดี เพียงแต่เจ้าของแมวหลายๆ คนมักจะละลเยการอาบน้ำแมวเพราะคิดว่าแมวไม่จำเป็นต้องอาบน้ำเพราะแมวเลียทำความสะอาดอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ความจริงแล้วการอาบน้ำแมวเป็นประจำช่วยให้แมวสบายตัว ขนสวยนุ่มสะอาด ลดการสะสมของเชื้อโรคให้แมวด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาเแปรงขนเป่าขนหลังอาบน้ำให้แมว ทางเราแนะนำให้ใช้ตัวช่วยเป่าขนให้แมวของคุณง่ายขึ้น ด้วย เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงสุนัขแมวอัจฉริยะของ Petology Thailand และยังช่วยลดปัญหาขนพันกันได้

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ > วิธีอาบน้ำแมว ควรอาบอย่างไร ให้แมวไม่ดิ้น อาบน้ำแมวกี่ครั้งดี

Petology – PePe DR100/300 Pro เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง

PePe DR-Pro เปิดตัวแล้ว! สีใหม่ ไม่ใช่ไทเทเนียม แต่เป็น Metallic Gray เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงที่ทุกบ้านต้องมี!
– ลมแรงกว่าเดิม 30% แต่เสียงเบาขึ้น
– เสียงเบาประมาณ 45-50 เดซิเบล (เทียบกับไดร์เป่าผมคนที่มีความดังมากถึงหรือมากกว่า 90 เดซิเบล)
– วัสดุเป็นพลาสติก HDPE มีความทนทานสูง ทนความร้อน ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี ปลอดสาร BPA
– แรงลม 7 ทิศทาง รวมไปถึงด้านล่าง ด้วยระบบ Reheating Circulation ที่ช่วยให้เครื่องหมุนเวียนความร้อนให้อยู่แต่ในตู้
– ใช้งานง่าย ช่วยลดภาระในการที่จะต้องมานั่งเป่า นั่งเช็ด นั่งไดร์ สัตว์เลี้ยงหลังจากอาบน้ำ ไม่ต้องกลัวน้องเครียดเพราะเสียงไดร์อีกต่อไป
– มีโหมดทำความสะอาดตัวเครื่องด้วยแสง UV-C
– ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจจะนำพาไปสู่เชื้อราและสิ่งปฎิกูลในอากาศ ด้วยการยิงประจุไฟฟ้าขั้วลบไปในอากาศในปริมาณที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยงหรือที่รู้จักกันในนามของระบบ ionizer พบได้ในเครื่องฟอกอากาศราคาสูง
– แกะทำความสะอาดง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมือ
– มี 9 โหมดให้เลือกใช้ง่ายในปุ่มเดียว
– ใช้งานได้ทั้งสุนัขและแมว

เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง PePe DR-Pro

DR100 Pro ความจุ 93 ลิตร เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดไม่เกิน 12 กิโล

ภายใน 43 cm x 50 cm x 45 cm
ภายนอก 50 cm x 60 cm x 58 cm
ราคา 22,900 บาท

DR300 Pro ความจุ 153 ลิตร เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดไม่เกิน 25 กิโล

ภายใน 43 cm x 65 cm x 55 cm
ภายนอก 50 cm x75 cm x68 cm
ราคา 27,900 บาท
.
รับประกัน 5 ปี ทุกชิ้นส่วนพร้อมบริการ on-site เซอร์วิสในเขตกรุงเทพและปริมณฑล สำหรับลูกค้าต่างจังหวัดทางบริษัทดูแลค่าขนส่งให้ตลอดอายุการรับประกัน

เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงสุนัขแมวอัจฉริยะของ Petology Thailand 

เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงสุนัขแมวอัจฉริยะของ Petology Thailand 

รีวิวจริงจากลูกค้าที่ใช้เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง PePe DR-Pro

รีวิวเครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง PePe DR-Pro รีวิวเครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง PePe DR-Pro รีวิวเครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง PePe DR-Pro รีวิวเครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง PePe DR-Pro PePe DR-Pro เปิดตัวแล้ว! สีใหม่ ไม่ใช่ไทเทเนียม แต่เป็น Metallic Gray เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงที่ทุกบ้านต้องมี!

PePe DR-Pro เปิดตัวแล้ว! สีใหม่ ไม่ใช่ไทเทเนียม แต่เป็น Metallic Gray เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงที่ทุกบ้านต้องมี! PePe DR-Pro เปิดตัวแล้ว! สีใหม่ ไม่ใช่ไทเทเนียม แต่เป็น Metallic Gray เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงที่ทุกบ้านต้องมี! PePe DR-Pro เปิดตัวแล้ว! สีใหม่ ไม่ใช่ไทเทเนียม แต่เป็น Metallic Gray เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยงที่ทุกบ้านต้องมี!

บทความล่าสุด

location
บริษัท เพ็ทโทโลจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 47/356 อาคารไคตัค ชั้น 10 ถ. ป๊อปปูล่า ต. บ้านใหม่ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120

© 2024 Petology. All Rights Reserved.