แมวเป็นเชื้อรา อาการ เป็นยังไง? อาจเป็นเรื่องยากของเหล่าทาสสำหรับการสังเกตเชื้อราแมว เพราะหลาย ๆ คนอาจพอทราบมาบ้างแล้วว่าโรคทางผิวหนังของสัตว์นั้นมีหลายชนิด ไม่เว้นแต่สัตว์ที่รักความสะอาดอย่างแมวก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคผิวหนังได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เชื้อราในน้องแมวนั้นเป็นภาวะผิดปกติทางผิวหนังที่สามารถพบได้บ่อย แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยปะละเลยได้ ดังนั้น เพื่อให้เหล่าทาสได้รู้จักลักษณะอาการของเชื้อราในแมวมากขึ้น ในบทความนี้ Petology ได้นำข้อมูลมาฝาก พร้อมแนวทางการป้องกันที่ควรทราบด้วยเช่นกัน
แมวเป็นเชื้อรา อาการ เป็นอย่างไร เหล่าทาสควรรู้จักเพื่อป้องกันให้เท่าทัน
การรักษาแมวเป็นเชื้อรานั้นต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากเจ้าของที่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ทั้งในเรื่องของการจัดการสภาพแวดล้อมของการเลี้ยง การให้ยารักษาอย่างต่อเนื่องเหมาะสม รวมทั้งการรักษาอาการข้างเคียงอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ดังนั้น ความเข้าใจของผู้เลี้ยงจึงมีความสำคัญมากต่อการรักษา หากปฏิบัติได้ถูกต้อง เหมาะสม ก็จะช่วยลดความรุนแรงของการติดเชื้อและประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาได้
ทำความรู้จัก “เชื้อราบนผิวหนัง” ฝันร้ายของเหล่าน้องเหมียวที่เหล่าเจ้าของควรใส่ใจ!!
อีกหนึ่งสิ่งของปัญหาน้องแมวขนร่วงที่ทาสต้องคอยสังเกต ก็คือ หากสังเกตเห็นว่าแมวของคุณขนร่วงเป็นหย่อม หรือเป็นวงกลม พร้อมกับมีปื้นแดงบนผิวหนัง อาจเป็นอาการของโรคทางผิวหนัง อย่างเช่น โรคกลาก หรือโรคเชื้อราแมว เป็นต้น
ซึ่งเชื้อราในแมวนั้น มีหลายชนิดด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่ที่พบจะเกิดจาก Microsporum Canis ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการ โดยเชื้อราประเภทนี้มักจะเกิดจากความชื้นสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของน้องแมว และแน่นอนว่าแมวขนยาวจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้มากกว่าแมวขนสั้น เพราะสามารถเกิดการสะสมความชื้นได้มากกว่านั่นเอง โดยลักษณะอาการของโรคนี้มักจะสังเกตได้ไม่ยาก สังเกตจากบริเวณผิวหนังที่มีการติดเชื้อจะเป็นผิวหนังที่มีลักษณะแห้ง แดง และอาจจะมีอาการผิวหนังลอก รวมถึงอาการแมวขนร่วงเป็นหย่อมอีกด้วย
แมวเป็นเชื้อรา เกิดจาก….
จากที่ได้กล่าวไปว่า เชื้อราแมว ส่วนใหญ่กว่า 90% มักจะเกิดจาก เชื้อราสายพันธุ์ Microsporum Canis โดยเมื่อแมวของเราติดเชื้อรา จะสามารถสังเกตได้ไม่ยากนั่นก็คือ บริเวณผิวหนังที่ติดเชื้อจะมีลักษณะ แห้ง แดง ลอกเป็นขุย ขนร่วง และบางตัวอาจมีอาการตกสะเก็ดร่วมด้วย
และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ โรคนี้เป็นโรคติดต่อ หากในพื้นที่เลี้ยงมีแมวมากกว่า 1 ตัว จะสามารถติดต่อจากแมวสู่แมวได้ มากไปกว่านั้น โรคนี้ยังสามารถติดต่อสู่คนได้อีกด้วย โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้น้องแมวสามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้นนั้น ได้แก่
- แมวที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น แมวสูงอายุที่สุขภาพไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิม หรือเป็นแมวเด็กที่มีอายุน้อย
- สภาพแวดล้อมพื้นที่ที่อยู่อาศัย ไม่สะอาด มีความชื้นสูง โดยไม่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
- เกิดการบาดเจ็บที่ชั้นผิวหนัง โดยไม่มีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง
จะเห็นได้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ทำให้น้องแมวติดโรคนั้น เหล่าทาสสามารถป้องกัน และ รักษาเชื้อราแมว ได้ไม่ยาก เพียงหมั่นดูแลเอาใจใส่ รักษาความสะอาด และไม่ละเลยการพาสัตว์เลี้ยงของท่านไปตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ
ลักษณะอาการของ “เชื้อราแมว” เป็นอย่างไร?
ลักษณะอาการของโรคนี้มักจะสังเกตได้ไม่ยาก สังเกตจากบริเวณผิวหนังที่มีการติดเชื้อจะเป็นผิวหนังที่มีลักษณะแห้ง แดง และอาจจะมีอาการผิวหนังลอก รวมถึงอาการแมวขนร่วงเป็นหย่อมๆ อีกด้วย หากเจออาการเหล่านี้ก็สันนิษฐานได้เลยว่าเจ้าแมวน้อยของคุณอาจจะกำลังเป็นเชื้อราแมวก็ได้นะ หากไม่รีบทำการรักษา คนเลี้ยงแมวอย่างเรา ๆ ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อราจากน้องแมวได้เหมือนกัน
การป้องกันเชื้อราแมวและการกลับมาเกิดซ้ำ
สำหรับแนวทางการป้องกัน
- ทำความสะอาดมือและอวัยวะต่าง ๆ ทุกครั้ง หลังสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง
- ทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ
- ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านที่สัตว์เลี้ยงมีการสัมผัส เช่น โซฟา หมอน พรมปูพื้น เป็นต้น
- หากมีการติดเชื้อราแมว หลังรักษาคนแล้วควรนำสัตว์เลี้ยงไปรักษาด้วย
- ไม่ควรคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงมากเกินไป เช่น การนอนร่วมที่นอนเดียวกัน
แมวเป็นเชื้อรา รักษายังไง ได้บ้าง?
โดยปกติแล้วการรักษาอาการเชื้อราดังกล่าวในแมวนั้นสามารถทำได้ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อ ใช้แชมพูฆ่าเชื้อแบบเฉพาะ และอาจจะให้กินยาร่วมด้วยจนกว่าจะอาการดีขึ้น ซึ่งมีข้อปฏิบัติดังนี้
- ให้ยากับน้องแมวกินตามที่สัตวแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
- หากแมวมีอาการเบื่ออาหาร ซึม ควรหยุดยากินและพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
- พาน้องแมวไปรับการตรวจร่างกายตามที่สัตวแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ สำหรับการรักษาเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันการเกิดปัญหาผิวหนัง โดยเฉพาะน้องแมวขนยาวที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ป้องกันการเกิดเชื้อราด้วย “เครื่องเป่าขน” ขจัดความชื้นอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในสัตว์เลี้ยง
น้องแมว กับน้ำ เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนาน เพราะกว่าจะจับอาบน้ำได้แต่ละที ต้องงัดทุกกลเม็ดเทคนิคให้น้องแมวยอมโดนน้ำ หลังจากนั้นยังต้องมาจับเป่าขนอีก พูดเท่านี้เชื่อว่าทาสแมวหลายคนคงเข้าใจสถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำเป่าขนที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น อาจส่งผลให้แมวเป็นเชื้อรา และโรคผิวหนังได้
ดังนั้น การทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าของ เนื่องจากภาวะเชื้อราของน้องแมวสามารถเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่เจ้าของได้ การอาบน้ำแมวจึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่การอาบน้ำหรือเป่าขนไม่ถูกวิธีสามารถก่อให้เกิดโรคเชื้อราในแมวได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรมีเครื่องเป่าขนสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากพอทั้งในส่วนของการเป่าขนให้แห้งและกำจัดแบคทีเรียให้หมดไปเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราให้ดีมากขึ้น
ติดตามรายละเอียดเครื่องเป่าขน จาก Petology เพิ่มเติมที่…
PEPE DR-300 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง
PEPE DR-100 PRO เครื่องเป่าขนสัตว์เลี้ยง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่เจ้าของไม่ควรลืมคือต้องเลือก เป่าขนด้วยเครื่องเป่าลมที่มีกำลังสูง แต่มีเสียงที่เบา จึงทำให้น้องแมวไม่ตกใจง่าย พร้อมกันนี้ยังสามารถเป่าขนได้แห้งทั้งขนชั้นนอก และขนชั้นในสำหรับน้องแมวที่มีขนหนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด