เลี้ยงแมวระบบปิด ไม่ให้เครียด 5 วิธีดูแลให้น้องแมวมีความสุขได้ในพื้นที่จำกัด

เลี้ยงแมวระบบปิด ไม่ให้เครียด ทำยังไง? แม้จะเป็นหนึ่งช่องทางในการเลี้ยงน้องแมวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเพราะมีความปลอดภัยทั้งทางร่างกายและสุขภาพของน้องแมว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสามารถสร้างความเครียดให้น้องแมวของเราอยู่ไม่น้อย ซึ่งต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้บรรดาน้องแมวเครียดนั้นมีอยู่หลายประการด้วยกัน แต่วิธีการช่วยบรรเทาให้แมวให้เครียดก็มีไม่ใช่น้อย ซึ่งจะมีข้อมูลอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน

เลี้ยงแมวระบบปิด ไม่ให้เครียด มีวิธียังไง มาป้องกันภาวะเครียดในน้องแมวกันดีกว่า!

ทาสแมวส่วนใหญ่คงรู้กันดีว่าเจ้าเหมียวอ่อนไหวง่าย มีหลากหลายอารมณ์ และค่อนข้างไวต่อความความรู้สึก พวกเค้ารับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ดี แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจะทำให้น้องแมวเครียดและรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ด้วย ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมาเกิดขึ้น การเลี้ยงให้น้องแมวอยู่ห่างไกลจากความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ

ทำความรู้จัก “เลี้ยงแมวระบบปิด” คืออะไร ?

การ เลี้ยงแมวระบบปิด คือ การเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน ไม่ปล่อยให้ออกไปเล่นนอกบ้าน ทำทุกกิจกรรมอยู่ภายในบ้านเท่านั้น องค์กรสัตวแพทย์ The American Veterinary Medical Association (AVMA) ได้ให้คำแนะนำว่า ควรเลี้ยงแมวแบบระบบปิด เพราะจะช่วยลดการเกิดอันตรายจากนอกบ้าน เพราะอยู่ในบ้านจะมีโอกาสได้รับอันตราย และบาดเจ็บน้อยกว่า หากใครที่กำลังคิดว่า การเลี้ยงแมวไว้แต่ในบ้านจะทำให้แมวอึดอัด เป็นทารุณกรรมสัตว์ กลายเป็นบาป อาจจะต้องคิดใหม่นะคะ แมวจะชื่นชอบการอยู่ในพื้นที่ของตนเอง ไม่ชอบให้ใครหรือสัตว์ตัวไหนเข้ามายุ่มย่ามในอาณาเขต โดยส่วนใหญ่แมวจะรู้สึกปลอดภัยกับการอยู่ในบ้านมากกว่า

ทั้งนี้ การ เลี้ยงแมวระบบปิด ในปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติมาก เพราะส่วนใหญ่ก็เลี้ยงน้องไว้ในบ้านกัน หรือวัยทำงานพักอาศัยอยู่คอนโดหรือหอพัก ก็นิยมเลี้ยงแมวกันภายในห้อง แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่อยากเลี้ยงน้องแบบระบบปิด เพราะกลัวน้องอึดอัด เลยเลี้ยงแบบปล่อย แต่การเลี้ยงทั้ง 2 แบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับการพิจาณาจากเจ้าของว่าจะเลือกเลี้ยงแบบใดให้เหมาะสมมากที่สุด

ข้อดีและข้อเสีย ของการเลี้ยงแมวระบบปิด

สามารถแบ่งข้อดีและข้อเสียได้ดังนี้…

เลี้ยงแบบระบบเปิดมีผลดีอย่างไร ?

  • มีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ หรือการถูกทารุณกรรม
  • ไม่ติดโรคที่มาจากภายนอก
  • ไม่ก่อความรำคาญ หรือลำบากใจ กับเพื่อนบ้าน
  • น้องแมวไม่หายไปจากบ้าน (ในกรณีที่ระบบปิดแน่นหนา)
    มีอายุยืน เพราะสามารถสังเกตความผิดปกติได้ง่ายกว่า

เลี้ยงแบบระบบปิดมีผลเสียอย่างไร ?

  • อาจเกิดโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน
  • ไม่ได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่ ในกรณีที่มีพื้นที่เลี้ยงจำกัด
  • อาจมีอาการเครียด เพราะไม่ได้ออกไปข้างนอก
  • อาจก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ เช่นเบาหวาน และโรคที่มาจากโรคอ้วน
  • ไม่ชินเวลาออกไปนอกบ้าน มีอาการตื่นตระหนก
  • กลัวผู้คนแปลกหน้า
  • หากอยู่คอนโดหรือห้องเช่าในที่สูง ๆ เสี่ยงตกระเบียง

จะเห็นได้ว่า ข้อเสียของการเลี้ยงระบบเปิดกับปิด มีความแตกต่างกัน แต่ข้อเสียของระบบเปิดจะควบคุมได้ยากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ เช่น การติดโรค ท้อง หรือเกิดอุบัติเหตุ เราควบคุมได้ยากมาก ๆ แต่ข้อเสียของระบบปิด เราสามารถควบคุมความเสี่ยงเหล่านี้ได้มากกว่านั่นเอง ยังไงก็ตาม แม้จะมีข้อดีในเรื่องของสุขภาพมากกว่าการเลี้ยงระบบเปิด แต่ก็ยังคงติดในเรื่องของความเครียดของน้องแมวอยู่ ดังนั้น เจ้าของต้องทำความเข้าใจการเลี้ยงแบบระบบปิดที่จะไม่ทำให้น้องแมวเครียดให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้

ไขข้อสงสัย!! ทาสจะรู้ได้อย่างไรว่า น้องแมวกำลังเครียด?

จำไว้ว่าไม่มีใครรู้จักน้องแมวดีเท่าตัวเราเองอีกแล้ว ดังนั้นวิธีการสังเกตการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมต่างๆ ของเจ้าเหมียวนั้น จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการบอกได้ว่าเค้ากำลังอยู่ในภาวะไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร การนอนหลับ หรือแม้แต่การเล่นที่ผิดปกติไปจากที่เค้าเคยทำเป็นประจำ ซึ่งถ้าปล่อยให้น้องแมวเครียดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปน้องแมวของเราอาจมีอาการแทรกซ้อน เช่น อาจเกิดอาการตัวสั่น เลียขนตัวเองมากเกินพอดี หรือการปัสสาวะเรี่ยราด เป็นต้น

5 วิธีดูแลน้องแมวให้ห่างไกลความเครียดจากการเลี้ยงแบบระบบปิด

มีวิธีที่จะช่วยให้น้องแมวไม่เครียด และสามารถออกกำลังกายวิ่งเล่นกันได้อย่างพอดีในบ้าน วิธีที่จะช่วยได้มีดังนี้

  1. หาของเล่นที่สามารถปีนป่ายได้ เพื่อให้น้องได้กระโดดเล่น ออกกำลังกายได้ด้วย
  2. หาของเล่นที่เราสามารถถือแหย่น้องได้ เพื่อให้น้องวิ่งตาม จะทำให้น้องกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้น้องกินอาหารอร่อยขึ้นด้วย
  3. แมวที่อายุเยอะจะต้องใช้เวลานอนเยอะ เจ้าของจะต้องช่วยน้อง โดยการเล่นกับน้องให้เยอะมากขึ้น
  4. เพราะว่าแมวส่วนใหญ๋จะชอบนอนมาก ๆ ดังนั้น จะต้องมีที่นอนนุ่ม ๆ และอบอุ่นให้น้องเพราะจะทำให้น้องแมวสบายใจนั่นเอง
  5. อุณหภูมิในบ้าน ต้องไม่ร้อนจัดจนเกินไป ควบคุมให้อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อบอ้าวหรือทำให้บรรยากาศรอบ ๆ บ้านอึดอัด น้องอาจเป็นฮีทสโตรกได้นั่นเอง

ทั้งนี้ นอกจากเคล็ดลับต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ของเล่นต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เค้ามีความสุขมากขึ้น โดยควรเลือกข้าวของเครื่องใช้ หรือของเล่นที่ช่วยผ่อนคลายให้น้องแมวอย่างละเอียดด้วยเพื่อให้เหมาะสมกับน้องแมวที่บ้านมากที่สุดนั่นเอง

 

 

 

 

 

ติดตามสินค้าจาก Petology >> ของเล่นสัตว์เลี้ยง

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าน้องแมวก็มีจิตใจและความรู้สึกไม่ต่างไปจากมนุษย์ ดังนั้นการดูแลแมวและรับมือกับความเครียดของเค้าให้ถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราในฐานะผู้เลี้ยงแมวต้องเรียนรู้ ดังนั้น นอกจากเคล็ดลับต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อาหารแมวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เค้ามีความสุขมากขึ้น โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ช่วยบรรเทาความเครียดให้กับแมวด้วย ตั้งแต่อาหารไปจนถึงเครื่องอำนวยความสะดวกไปจนถึงของเล่นต่าง ๆ ด้วย

 

บทความล่าสุด

location
บริษัท เพ็ทโทโลจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 47/356 อาคารไคตัค ชั้น 10 ถ. ป๊อปปูล่า ต. บ้านใหม่ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120

© 2024 Petology. All Rights Reserved.