maxideateam

โรคผิวหนังในแมว อีกหนึ่งภาวะผิดปกติที่ควรระวัง แม้จะดูไม่เป็นอันตราย แต่แท้จริงแล้วเป็นภาวะที่สามารถสร้างปัญหาให้กับสุขภาพของน้องแมวได้อีกหลายประการเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อแมวเป็นโรคผิวหนังได้ไม่ต่างจากคน โรคนี้ส่งผลอย่างมากต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของแมว เจ้าของจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผิวหนัง หากพบสัญญาณเตือนหรือความผิดปกติที่บ่งบอกถึงโรคผิวหนังแมว ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น เพื่อการป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นกับเจ้านายของเรา เหล่าทาสควรศึกษาข้อมูลกันเสียก่อน โรคผิวหนังในแมว อาจเกิดจากการอาบน้ำไม่สะอาดหรือเป่าขนไม่แห้ง ทาสต้องระวัง!! เมื่อพูดถึงแมวเหมียวที่ครองใจผู้คนทั่วโลก เรามักจะนึกถึงความสง่างามหรือความน่ารักน่ากอด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากรูปร่างหน้าตาและขนนุ่มสวยของพวกเค้า เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าเหมียวจะดูดีอยู่ตลอดเวลา ความลับอยู่ที่การดูแลสุขภาพผิวหนัง ซึ่งมีบทบาทอย่างมากต่อความเป็นอยู่ที่ดีของแมวเหมียวทุกตัว ปัญหาโรคผิวหนังในแมว เช่น อาการระคายเคืองและอาการคัน เป็นตัวบ่งชี้พื้นฐานในการทำความเข้าใจสุขภาพร่างกายของแมว นอกจากนี้ผิวหนังของแมวยังทำหน้าที่สำคัญหลายอย่าง เช่น ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย รับความรู้สึกทางกาย และป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย แมวมีผิวหนังที่ยืดหยุ่นสูง ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มความว่องไวเท่านั้น แต่ยังเป็นเกราะป้องกันอันตรายจากสิ่งแวดล้อม ปกป้องพวกเค้าจากบาดแผลในการผจญภัยกลางแจ้ง มันจึงสำคัญมากที่ผู้เลี้ยงต้องหมั่นตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเค้าไม่มีอาการที่บ่งบอกถึงโรคผิวหนังแมว สัญญาณเตือนของโรคผิวหนังในแมวที่เหล่าทาสควรเฝ้าสังเกต โรคผิวหนังแมวอาจไม่ใช่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงเสมอไป แต่มักส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกกังวล ซึ่งหากจับสังเกตสัญญาณเตือนของโรคได้เร็ว ก็จะเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที แผลและสะเก็ดแผล การมีผิวหนังที่ยืดหยุ่นช่วยให้แมวหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บทางร่างกายได้ดี อย่างไรก็ตาม หากแมวของคุณมีแผลและตกสะเก็ดบ่อย ๆ อาจบ่งบอกได้ว่าผิวหนังมีความบอบบางหรือสูญเสียความชื้นที่ควรจะมี ซึ่งอาจส่งผลต่อความยืดหยุ่น รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับบาดเจ็บและมีแนวโน้มจะเป็นโรคผิวหนังสูงขึ้น ผิวหนังอักเสบ เป็นสัญญาณเตือนสำคัญของภูมิแพ้ผิวหนังในแมวและในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทุกชนิด แม้ว่าจะไม่ได้บ่งบอกถึงสภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง แต่อาจเป็นสาเหตุของอาการระคายเคืองและความไม่สบายตัว […]

ของเล่นแมวอัจฉริยะ นั้นจัดเป็นไอเทมที่ช่วยสร้างความสนุกและแก้เบื่อให้กับน้องเหมียว ทั้งยังช่วยลดปัญหาการข่วนเฟอร์นิเจอร์หรือทำลายข้าวของในบ้านได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันมีของเล่นแมวให้หลายประเภท การใช้งานก็แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะของเล่นแมวแบบอัจฉริยะที่ในปัจจุบันถูกออกแบบให้ทำงานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งบางชิ้น นอกจากจะเป็นของเล่นได้แล้ว ยังสามารถช่วยเหล่าทาสสอดส่องและดูแลเจ้าเหมียวยามที่ทาสไม่อยู่ได้อีกด้วย ของเล่นแมวอัจฉริยะ ไอเทมสุดฮิตของปี 2024 ที่เหล่าเจ้านายของทาสต้องมี!! สำหรับคนเลี้ยงแมวอย่างเรา ๆ เป็นที่รู้กันดีว่า สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องมีติดบ้านอยู่มากกว่าหนึ่งชิ้นเลยก็คือ “ของเล่นแมว”นั่นเอง เพราะโดยปกติแล้วน้องแมวนั้นเป็น สัตว์ที่มีสัญชาติญาณของนักล่าอยู่ในตัว เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมน้องแมว ส่วน ใหญ่ถึงชอบวิ่งไล่จับสัตว์ตัวเล็ก ๆ เป็น พิเศษ แต่สำหรับน้องแมวส่วนใหญ่ที่เรามักจะเลี้ยงอยู่ภายในบ้านนั้น อาจเป็นการยากที่จะตอบสนองความเป็นนักล่าของพวกเค้าได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นถ้าคนเลี้ยงแมวอย่างเรา สามารถเลือกของเล่นแมว ที่ตอบโจทย์ความต้องการของน้องแมวได้ ก็จะทำให้น้องแมวเกิดความเพลินเพลินคลายเครียด รวมถึงได้ออกกำลังกายซึ่งส่งผลต่อสุขภาพแมวที่ดีได้ไปในตัวอีกด้วย โดยสำหรับของเล่นนั้น วิธีการเลือกก็จะลำบากขึ้นมาอีกระดับ เพราะโดยธรรมชาติแล้วแมว มักจะเป็นสัตว์ที่ซุกซน และขี้เล่น มันไม่เพียงแต่นอนและกินอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันชอบทำโน้นนี่ให้สมองไม่ว่าง ไม่ว่าจะเป็นการ ปีนป่าย โจมตีเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ด้วย ซึ่งของเล่นก็มีหลายประเภทโดยส่วนใหญ่มักเป็นของเล่นที่เหล่าทาสต้องเล่นด้วย แต่ในปัจจุบันมี “ของเล่นแมวแบบอัจฉริยะ” ที่สามารถเล่นกับน้องแมวได้ตลอด ต่อให้ทาสไม่อยู่บ้านน้องแมวก็ไม่เหงา แนะนำของเล่นแมวแบบอัจฉริยะจาก Petology ถูกใจทั้งเจ้านาย ถูกใจทั้งทาส

ของเล่นแมวโต อีกหนึ่งไอเทมสำคัญที่เหล่าทาสหลาย ๆ คนอาจมองข้ามเพราะคิดว่าเหล่าน้องแมวของเราที่มีอายุในวัยที่โตแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีของเล่นก็ได้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าของเล่นสำหรับแมวโตนั้นก็สำคัญไม่แพ้ของเล่นแมวเด็กเลย โดยในของเล่นแมวในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายให้เราได้เลือก ซึ่งแต่ละประเภทก็จะเหมาะกับน้องแมวที่มีช่วงวัย และนิสัยที่แตกต่างกันโดยเฉพาะน้องแมววัยโต ซึ่งในบทความนี้ Petology จึงนำข้อมูลของเล่นน้องแมวแต่ละประเภทมาฝากกัน “ของเล่นแมวโต” ยังจำเป็นอยู่ไหม ถึงเจ้านายจะโตแล้ว แต่ทาสยังต้องเปย์ของเล่นอยู่? สำหรับคนเลี้ยงแมวอย่างเรา ๆ เป็นที่รู้กันดีว่า สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องมีติดบ้านอยู่มากกว่าหนึ่งชิ้นเลยก็คือ “ของเล่นแมว”นั่นเอง เพราะโดยปกติแล้วน้องแมวนั้นเป็น สัตว์ที่มีสัญชาติญาณของนักล่าอยู่ในตัว เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมน้องแมว ส่วน ใหญ่ถึงชอบวิ่งไล่จับสัตว์ตัวเล็ก ๆ เป็น พิเศษ แต่สำหรับน้องแมวส่วนใหญ่ที่เรามักจะเลี้ยงอยู่ภายในบ้านนั้น อาจเป็นการยากที่จะตอบสนองความเป็นนักล่าของพวกเค้าได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นถ้าคนเลี้ยงแมวอย่างเรา สามารถเลือกของเล่นแมว ที่ตอบโจทย์ความต้องการของน้องแมวได้ ก็จะทำให้น้องแมวเกิดความเพลินเพลินคลายเครียด รวมถึงได้ออกกำลังกายซึ่งส่งผลต่อสุขภาพแมวที่ดีได้ไปในตัวอีกด้วย การเล่นกับแมวในแต่ละช่วงวัย เหล่าทาสสามารถเล่นกับเจ้าเหมียวได้หลากหลายวิธี โดยลักษณะการเล่นอาจแตกต่างกันไปตามช่วงวัย การเล่นกับลูกแมว เราควรปล่อยให้ลูกแมวเล่นกันเองหรือควรให้ลูกแมวเล่นของเล่นตามลำพัง? ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการเล่น สิ่งแรกที่คุณควรทำคือฝึกลูกแมวเข้าสังคมกันก่อน เพราะโดยส่วนใหญ่ลูกแมวชอบเล่นแรง พวกเค้ามักจะเผลอข่วนและกัดพ่อแม่แมวด้วยความรักเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ในช่วงที่ลูกแมวเล่นกัน แนะนำให้ฝึกสอนพวกเค้าด้วยวิธีเชิงบวก ให้ขนมเป็นรางวัลเมื่อเป็นเด็กดี อาจจะชวนเล่นเกมหรือของเล่นแมวที่ช่วยเสริมทักษะและกระตุ้นจิตใจ เช่น เกมซ่อนหา เกมหาสมบัติ หรือเกมบนสมาร์ตโฟน การเล่นกับแมวโต แมวโตเต็มวัยสามารถเรียนรู้ทริคและทักษะใหม่

วิธี แก้ ขนแมว เป็นสังกะตัง เริ่มยังไงดี? แม้จะเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเรื่องขนแต่เชื่อเหลือเกินว่าทำให้ทาสหลาย ๆ คนต้องเป็นกังวลอย่างแน่นอน โดยเฉพาะบรรดาทาสที่มีน้องแมวอยู่ในสายพันธุ์ขนยาว แม้หลายคนอาจมองว่าการที่น้องแมวมีก้อนขนเป็นสังกะตังจะเป็นปัญหาแค่เรื่องขนเท่านั้นแต่จริง ๆ แล้วมันส่งผลต่อน้องแมวมากกว่าที่คิด ดังนั้น เพื่อไม่ให้ปัญหาอื่น ๆ ตามมา เหล่าสทาสจึงควรศึกษาปัญหานี้อย่างจริงจังที่สุด วิธี แก้ ขนแมว เป็นสังกะตัง ใครเลี้ยงน้องแมวขนยาวฟังทางนี้!! เป็นที่ทราบกันดีระหว่าทาสที่กำลังเลี้ยงแมวที่มีขนยาวอยู่ หนึ่งในปัญหาที่เลี่ยงไม่พ้นก็คือ ขนของแมวพันกัน จับตัวกันเป็นก้อน ตอนแรกอาจจะไม่ได้คิดอะไร มองข้ามไป แต่แล้วผลที่ตามมาคือแมวได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนัง เป็นบาดแผล ทำให้รู้ว่าขนพันกันก้อนเล็กๆไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด กฎง่ายๆของแรกในการจัดการกับขนพันกันของแมวก็คือ ต้องระลึกไว้เสมอว่าแมวสายพันธุ์ขนยาวเท่านั้นที่มีปัญหาขนพันกันมากที่สุด ส่วนในแมวขนสั้นอาจจะพบได้บ้าง แต่ไม่บ่อยครั้งเท่า สังกะตังแมว คือ… ขนสังกะตัง คือการที่ขนของน้องแมวของเราพันกัน ซึ่งสังกะตังแมว เกิดจากน้ำลายของน้องที่ไปเลียขนของตัวเอง หรืออาจจะเกิดจากการใช้สเปย์อาบน้ำแห้งให้น้องแบบผิดวิธีจึงทำให้เกิดการพันกันของก้อนขนได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม จากที่ได้บอกไปว่าปัญหานี้มักเกิดกับน้องแมวในสายพันธ์ุขนยาวมากกว่าขนสั้น ดังนั้น เหล่าทาสที่มีเจ้านายในสายพันธ์ุขนยาวจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ขนแมวเป็นสังกะตัง เจ็บไหม โดยปกติแล้วการที่ขนแมวเกิดเป็นก้อนสังกะตังขึ้นมานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้ทำให้น้องแมวมีอาการเจ็บ แต่อาจจะทำให้เกิดความรำคาญได้ เพราะตัวของน้องแมวเองอาจจะเกาไปไม่ถึงชั้นผิดหนังเนื่องจากเกิดอาการคันเนื่องจากขนบางก้อนพันกันจนติดกับผิวหนังจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่าเจ้านายอาจเกิดความรำคาญได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ การที่น้องแมวมีก้อนขนที่เป็นสังกะตังอาจเสี่ยงทำให้น้อง

แมวขย้อนก้อนขน อาการของน้องแมวที่เชื่อได้ว่าทาสหลาย ๆ คนต้องเคยเห็นจนชินตาอย่างแน่นอน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าแม้จะดูเป็นเรื่องปกติแต่หากปล่อยให้น้องแมวมีอาการนี้บ่อย ๆ เข้าหรือมีอาการบ่อยเกินปกติ นั่นอาจหมายถึงน้องแมวกำลังมีปัญหาทางร่างกายอยู่ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เหล่าทาสทุกคนรู้เท่าทันอันตรายของอาการนี้ของน้องแมวมากขึ้น ในบทความนี้ Petology จึงนำข้อมูลมากฝาก ซึ่งจะมีข้อมูลส่วนไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกัน แมวขย้อนก้อนขน อาการนี้คืออะไร เป็นเรื่องปกติของแมวหรือไม่ เหล่าทาสต้องศึกษา!! แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก รู้วิธีการดูแลขนตัวเอง จนแทบไม่ต้องอาบน้ำเลย แต่วิธีการดูแลขนแบบนี้ของแมว ทำให้ต้องกลืนขนที่ใกล้หลุดเข้าไปด้วย จึงนำไปสู่ปัญหาก้อนขนในทางเดินอาหาร ตามปกติแมวมักจะปัญหาเรื่องก้อนขนในทางเดินอาหารเป็นระยะ ๆ ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ถ้าเหล่าทาสยังสงสัยว่าเจ้าก้อนขนนี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แมวจะแสดงอาการแบบไหน และมีวิธีการใดช่วยแก้ปัญหาก้อนขนให้แมวได้บ้าง Petology มีข้อมูลมาฝาก อาการ “แมวขย้อนขน” คืออะไร ทำไมเจ้าเหมียวจึงมีอาการนี้? เป็นเรื่องปกติที่แมวจะเผลอกลืนขนลงไประหว่างขั้นตอนการกรูมมิ่ง ทำความสะอาดตัวเอง ตัวเส้นขนมักจะผ่านเข้าไปในร่างกายและกำจัดออกไปผ่านอุจจาระ แต่ก็มีบางครั้งที่ขนไม่สามารถผ่านเข้าไปในลำไส้ได้ ซึ่งแมวจะทำการสำรอกหรืออาเจียนสิ่งที่เรียกว่าก้อนขนออกมา โดยธรรมชาติแล้ว ก้อนขนดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าแมวของคุณเดินไปทั่ว พยายามขย้อน แต่กลับไม่คายก้อนขนออกมา นับว่าเป็นอาการเริ่มต้นของอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากนั้นจะเกิดอาการไม่รับประทานอาหาร ทำให้เริ่มมีอาการไอแห้ง หายใจมีเสียงหวีด หรือหายใจไม่ออก บางครั้งอาจมีการพยายามกินหญ้าเยอะผิดปกติ เนื่องจากเป็นกระบวนการรักษาตัวเองเบื้องต้นของน้องแมวนั่นเอง แล้วการขย้อนก้อนขนในแมวเป็นเรื่องปกติหรือไม่

“แมวขนแตก” เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับภาวะนี้ของน้องแมวมาก่อน หรือในบางคนอาจจะเคยรู้จักแล้วแต่ก็ไม่ได้คิดว่ามีอันตรายอะไรเพราะเป็นเพียงแค่ปัญหาเรื่องขนเท่านั้น ซึ่งต้องบอกก่อนว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะการที่น้องแมวมีขนแตก สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การดูแลขนไม่ดี , อายุน้องที่น้อยเกินไป , การได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ, ความเครียด, สภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่  และรวมไปถึงโรคร้ายแรงอื่น ๆ ในน้องแมวที่เหล่าทาสอาจไม่เคยสังเกตมาก่อนด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าอาการขนแตกนี้คืออะไร และเราสามารถดูแลน้องแมวได้อย่างไรบ้าง แมวขนแตก เกิดจากอะไรกันแน่ เหล่าทาสต้องรู้ไว้จะได้แก้ไขถูกจุด! “ขนแตก” หนึ่งในปัญหาที่คนเลี้ยงแมวมักมีโอกาสได้พบเห็นกันบ่อย ๆ โดยเฉพาะในแมวพันธุ์ที่มีขนยาวและหนา ซึ่งจะมีอาการที่เด่นชัดคือ ขนมีลักษณะจับตัวกันเป็นก้อนเป็นแพ ดูไม่นิ่มเนียนสลวยสวยงาม ซึ่งก็เป็นข้อสงสัยของทาสหลาย ๆ คนว่าอาการนี้คืออะไรและเกิดมาจากอะไรกันแน่ เพราะบ้างก็ว่าเป็นเพราะน้องแมวป่วย แต่บ้างก็ว่าเป็นเพราะอ้วน ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจภาวะนี้ของน้องแมวมากขึ้น Petology จึงรวบรวมข้อมูลมาฝาก แมวมีภาวะขนแตกเพราะสาเหตุทั่วไป มาจากอะไรได้บ้าง ? มาเริ่มกับสาเหตุทั่วไปที่สามารถทำให้น้องแมวมีภาวะขนแตกได้กันก่อน ซึ่งประกอบด้วย… 1. การดูแลขนที่ไม่ดีพอ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้แมวขนแตกก็คือ การดูแลรักษาขนไม่ดีพอ ถึงแม้ว่าธรรมชาติของเจ้าเหมียวมักจะดูแลขนตัวเองเป็นปกติอยู่แล้ว แต่นั่นก็อาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในแมวที่สูงอายุหรือมีปัญหาสุขภาพ จึงควรได้รับการดูแลขนจากเจ้าของเพิ่มเติม 2. อายุ

“แมวฮีทสโตรก” หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้องแมวเสียชีวิตมากที่สุดในช่วงหน้าร้อน ซึ่งแม้ทางการแพทย์จะกล่าวไว้ว่าอาการนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดู แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วง Summer นี้เป็นหนึ่งสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้เหล่าเจ้านายเกิดภาวะนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม จากที่เราทราบกันดีว่า ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด เหล่าน้องแมวสามารถเสียชีวิตได้จากภาวะนี้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือเหล่าทาสต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับภาวะนี้เอาไว้พร้อมวิธีรับมือเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือได้ทันหากน้องแมวเกิดอาการกำเริบขึ้นมานั่นเอง “แมวฮีทสโตรก” ภัยร้ายเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตในช่วงหน้าร้อนที่ควรระวัง พอเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน คงไม่ต้องพูดถึงสภาพอากาศว่าร้อนระอุแค่ไหน อากาศร้อนๆ แบบนี้มีหลายโรคที่ต้องระวังโดยเฉพาะ “ฮีทสโตรก” ที่ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงหรือคนก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งฮีทสโตรกที่ได้กล่าวมานี้ถือเป็นสาเหตุหนึ่งในการเสียชีวิตของสัตว์เลี้ยงที่ควรสังเกต ป้องกัน และเฝ้าระวังอย่างมากเนื่องจากฤดูร้อนของไทยในทุกปี มีอุณหภูมิสูง และอากาศร้อนอบอ้าว ดังนั้น การทราบถึงรายละเอียดของภาวะเสี่ยงนี้พร้อมวิธีรับมือจึงสำคัญกับเจ้าของเป็นอย่างมากนั่นเอง ฮีทสโตรกในแมว เกิดจาก… “ฮีทสโตรก” เป็นโรคที่อันตรายมากหากเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าโรคนี้เป็นโรคที่ต้องระวังในหน้าร้อนเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยงสามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกฤดูกาล เพียงแต่ช่วงหน้าร้อนจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากที่สุด เนื่องจากอุณหภูมิภายนอกร้อนระอุ การระบายความร้อนของสัตว์เลี้ยงจึงทำได้ยาก โดยอาการฮีทสโตรกสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายและพบได้บ่อยในสุนัขและแมว โดยเฉพาพันธุ์ที่ขนยาว ขนหนา และพันธุ์หน้าสั้น แถมอาการนี้ยังเกิดขึ้นได้ง่ายเพราะมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ส่งผล คือ สภาพอากาศร้อนชื้น การอยู่ในพื้นที่อบอ้าวอากาศถ่ายเทไม่ดี เมื่อร่างกายของสัตว์ได้รับความร้อนมากเกินไปจะทำให้เขาเกิดความเครียด ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่หมุนเวียนในร่างกายลดลงจนความดันเลือดต่ำ หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง การระบายความร้อนที่ต้องอาศัยเลือดเป็นสื่อกลางเกิดความบกพร่อง ความร้อนจึงสะสมอยู่ในร่างกายจนก่อให้เกิดภาวะฮีทสโตรก (Heat Stroke) ตามมา ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา

มะเร็งในแมว อีกหนึ่งภัยร้ายที่เหล่าทาสอาจนึกไม่ถึงว่าสามารถเกิดจากฝุ่นในทรายแมวได้เช่นกัน เนื่องจากทรายแมวนั้นถือเป็นเครื่องใช้ที่น้องแมวต้องใช้เป็นประจำและดูไม่มีอันตรายใด ๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหล่าทาสมักจะคิดไม่ถึงว่าจะสามารถสร้างผลเสียให้กับน้องแมวได้ขนาดนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นข้อควรระวัง ในบทความนี้ Petology จึงนำข้อควรรู้เกี่ยวกับสารก่อมะเร็งในน้องแมวมาฝากทุกคนเพื่อให้ได้ศึกษากัน “มะเร็งในแมว” ภัยเงียบที่แฝงอยู่กับทรายแมว อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ระวัง เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ทาสแมวว่า “ทรายแมว” ในท้องตลาดนั้น มีหลายแบบ หลายประเภทให้บรรดาคนรักแมวได้เลือกซื้อ เลือกหามาใช้ให้กับเจ้าเหมียว โดยหลายคนต่างก็ย่อมมองหาสินค้าที่ราคาถูกเพื่อเป็นการประหยัดงบ แต่ทั้งนี้ทรายแมวบางยี่ห้อ แม้จะมีการโฆษณาชวนเชื่อว่าปลอดภัย ไร้สารเคมี ไม่มีฝุ่นตกค้าง แต่ทั้งนี้ควรเลือกทรายแมวที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ เพราะจะทำให้ปลอดภัยทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราได้ ซึ่งหากเผลอเลือกใช้ทรายแมวที่ไม่มีคุณภาพ แม้ว่าราคาจะถูก แต่อันตรายแฝงที่ปะปนมานั้น อาจน่ากลัวกว่าที่หลายคนจะคาดคิดได้ “ฝุ่นและสารเคมีจากทรายแมว” ตัวการก่อมะเร็งที่ทาสต้องเฝ้าระวัง ทรายแมวราคาถูก หรือแบบที่เกรดต่ำ มักจะมีฝุ่นหรือสารเคมีปะปนมา ส่วนใหญ่ที่มีฝุ่นมากมักจะเป็นทรายแมวที่ทำมาจากแร่เบนโทไนท์ หรือฝุ่นจากผงซีเมนท์ที่ปะปนมา เพราะผู้ผลิตบางรายนั้น อาจใช้กลโกงในรูปแบบลดต้นทุนการผลิตลง และนำมาขายในราคาถูก อาจต่ำกว่าราคาท้องตลาดทั่วไป ล่อให้คนสนใจซื้อแต่ทรายแบบนี้มักจะไม่มีคุณภาพเท่าที่เป็น ผงฝุ่นหรือสารเคมีที่มีปะปนในทรายแมวนั้น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งเจ้าของและแมวได้ในระยะยาว เพราะมีการสูดดม จนไปตกค้างในร่างกายซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็งในแมวได้ แม้จะไม่เกิดปัญหาเรื่องสุขภาพในทันที แต่เป็นอันตรายแฝงที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไปแน่นอน ทำความรู้จัก “ซิลิก้า” สารก่อมะเร็งที่มากับฝุ่นทรายแมวที่ส่งผลต่อทั้งเจ้านายและทาส ผู้เลี้ยงแมวจะรับรู้ดีว่าทรายแมวที่เป็นฝุ่นนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อน้องแมวโดยตรงโดยเฉพาะในระยะยาว ทรายที่ผลิตโดยเบนโทไนท์นั้นเป็นแร่ธรรมชาติที่ขุดออกมาซึ่งไม่มีอันตรายใด ๆ

น้ำ พุแมว ดีไหม? แม้จะเป็นไอเทมที่หลาย ๆ บ้านมีอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงมีเหล่าทาสในอีกหลายบ้านที่ยังคงสงสัยและพยายามหาคำตอบให้กับคำถามนี้อยู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากหลาย ๆ คนมักได้ยินข่าวเกี่ยวกับน้ำพุแมวมาเยอะมาก ๆ จึงอาจทำให้เป็นกังวลว่า น้ำพุแมวดีจริงมั้ย และควรควรซื้อหรือเปล่า เพื่อให้ทุกคนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้ Petology จึงนำประโยชน์ของน้ำพุแมวมาฝากเหล่าทาสให้ได้ศึกษาและนำไปพิจารณากัน น้ำ พุแมว ดีไหม ก่อนเลือกซื้อน้ำพุแมว ต้องรู้อะไรบ้าง? อีกหนึ่งไอเทมสำหรับน้องแมว ที่เหล่าทาสจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด! เพราะนอกจากจะช่วยกรองน้ำได้สะอาดยังช่วยให้น้องแมวดื่มน้ำได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว จุดโดดเด่นของน้ำพุแมวที่เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือระบบการทำงานที่ได้รับการออกแบบมาให้เลียนแบบการไหลของน้ำตามธรรมชาติ ช่วยให้น้ำไม่นิ่ง จึงสะอาดกว่าการเทน้ำใส่ถ้วยทั่ว ๆ ไป แถมไม่ต้องดูแลรักษาความสะอาดทุกวัน เนื่องจากน้ำพุแมวส่วนใหญ่ จะมาพร้อมแผ่นกรอง ที่สามารถช่วยกรองเศษขน สิ่งสกปรก ตะกอนต่าง ๆ ออกจากน้ำได้ จึงเหมาะกับเจ้าของที่ไม่ค่อยมีเวลาด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงข้อดีส่วนหนึ่งในการเลือกใช้น้ำพุแมวเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลากหลายประโยชน์ที่เหล่าทาสอาจไม่เคยทราบมาก่อนด้วย มารู้จัก 4 ข้อดีของน้ำพุแมว ที่เหล่าทาสควรรู้!! น้ำพุแมวนั้นมีข้อดีหลายประการ ซึ่งหลัก ๆ จะประกอบด้วย 4 ข้อด้วยกัน

แมวเป็นเชื้อรา เกิดจากอะไร? แม้จะเป็นคำถามที่ดูเบสิค เป็นคำถามทั่วไปเกี่ยวกับน้องแมว แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ทาสหลายคนไม่เคยทราบมาก่อน หรืออาจจะทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะทางผิวหนังในน้องแมวชนิดนี้คร่าว ๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื้อราในแมว ถือเป็นอีกหนึ่งในโรคติดต่อในแมวที่สามารถพบได้บ่อย และเป็นอันตราย หากเกิดขึ้นกับแมวสุดที่รักของคุณ ซึ่งนั่นก็คือ โรคเชื้อราแมว โดยมีสาเหตุหลักๆ จากการติดเชื้อราที่เกิดจากการสะสมความชื้น บนร่างกายของแมว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแมวพันธุ์ขนยาว ยกตัวอย่างเช่น เปอร์เซีย สก็อตติช แต่อย่างไรก็ตาม การ รักษาเชื้อราแมว ในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ป้องกันได้ และรักษาได้ไม่ยากนัก แมวเป็นเชื้อรา เกิดจากอะไร ป้องกันยังไงให้ปลอดภัยทั้งเจ้านาย ทั้งทาส? ทาสแมวทั้งหลายหาข้อมูลโดยด่วน เพราะโรคผิวหนังแมวนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย นอกจากจะสามารถติดต่อระหว่างแมวสู่แมวด้วยกันเองแล้ว ยังอาจกลายเป็นปัญหาสำหรับทาสแม่วอย่างเราๆ เพราะสามารถติดต่อสู่คนได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม “เชื้อราแมว” นั้นสามารถรักษาได้ไม่ยาก และป้องกันได้ ถ้าเหล่าทาสแมวอยากรู้แล้วว่าโรคนี้เกิดจากอะไร และมีลักษณะอาการอย่างไร รวมถึงจะมีวิธีการรักษาแบบไหน มาเก็บข้อมูลไปพร้อม ๆ กัน ทำความรู้จัก “เชื้อราบนผิวหนัง” ฝันร้ายของเหล่าน้องเหมียวที่เหล่าเจ้าของควรใส่ใจ!! อีกหนึ่งสิ่งของปัญหาน้องแมวขนร่วงที่ทาสต้องคอยสังเกต ก็คือ หากสังเกตเห็นว่าแมวของคุณขนร่วงเป็นหย่อม หรือเป็นวงกลม